1.
ว่ากันว่าแมวเป็นสัตว์ที่เย่อหยิ่งและเอาแต่ใจยิ่งกว่าใคร
ดังนั้นคงดีไม่น้อยถ้ามีใครซักคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดเหล่าแมวผู้เอาแต่ใจนี้ให้มาเข้าหาเราได้
เหมือนกับที่ซาโยโกะ ที่บอกว่าเธอดูเหมือนจะมีเสน่ห์แปลกๆ บางอย่างที่ดึงดูดให้แมวเข้ามาหาได้ ตั้งแต่เด็กๆ เธอพบว่าทุกครั้งที่กลับบ้านจะมีแมวจากทั่วทุกสารทิศพยายามมาเข้าใกล้และอยู่รอบตัวตลอดเวลา จนถึงกับพูดติดตลกเองเลยว่าบางทีตัวเธออาจมีกลิ่นหรือฟีโรโมนบางอย่างที่สามารถดึงดูดแมวก็เป็นได้
ซาโยโกะ อาศัยอยู่ในแถบชานเมืองในบ้านเก่าๆ ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและแมว ภายในบ้านของเธอมีแมวอาศัยอยู่มากมาย รวมไปถึงมีแมวจรมาสมทบเพิ่มจำนวนกำลังพลขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก แต่น่าเสียดายที่เสน่ห์แบบแปลกๆ ของเธอจะมีผลแค่เฉพาะกับแมวเท่านั้น เพราะดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีเพื่อนที่เป็นมนุษย์จริงๆ เลยซักคน อีกทั้งจากสายตาคนภายนอก ซาโยโกะดูจะเป็นผู้หญิงประหลาด แต่งตัวแปลกๆ ที่วันๆ เอาแต่ขลุกอยู่กับแมวที่บ้านอีกต่างหาก
แต่ถึงกระนั้นซาโยโกะก็มีงานอดิเรกที่ไม่เหมือนใคร ด้วยความที่มีแมวมากเหลือเกินทำให้ทุกๆ วันเธอจะพาแมวจำนวนหนึ่งไปขึ้นรถเข็นและลากไปแถวๆ ละแวกบ้านพร้อมป่าวประกาศว่า “ให้เช่าแมว” (Rent-A-Cat)
และนี่คือที่มาของเรื่องราวการ “ให้เช่าแมว” ของหนังเรื่องนี้นั่นเอง
2.
แม้จะดูไม่คุ้นตามากนัก แต่ดูเหมือนว่าธุรกิจให้เช่าแมวของซาโยโกะจะมีคนให้ความสนใจพอสมควร
แต่ต้องบอกก่อนว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะให้เช่าแมวเพื่อหวังผลกำไรอะไร เพราะว่าเธอมีธุรกิจอื่นที่ทำเงินให้เธออยู่แล้ว (เช่น เล่นหุ้นโดยให้แมวเป็นคนตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ แม้จะฟังดูตลกแต่ปรากฏว่าแมวนำโชคได้จริงๆ ซะงั้น !) โดยแนวทางของการเช่าแมวนี้คือให้แมวเติมเต็มความเหงาของคุณ เพราะทุกครั้งที่ป่าวประกาศซาโยโกะจะถามเสมอว่าคุณเหงาหรือเปล่า ถ้าเหงาก็เอาแมวไปคลายเหงาสิ
คนที่ขอเช่าแมวไปจากซาโยโกะมีหลากหลายประเภท ตั้งแต่คุณยายที่สามีและแมวที่เคยเลี้ยงร่วมกันได้จากไปแล้วทั้งคู่ ชายวัยกลางคนผู้ต้องจากครอบครัวมาอยู่คนเดียวเพราะหน้าที่การงานและมีปัญหาระหองระแหงกับลูกสาว หรือพนักงานประจำผู้ทำงานเดิมๆ ราวกับเครื่องจักรมาเป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว
แม้จะมีหลากหลายอาชีพและช่วงอายุ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขามีจุดร่วมเดียวกันคือความเหงา ความเหงาของการที่ต้องอยู่ด้วยตัวคนเดียวไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามดูเหมือนว่าจะสร้างรูขนาดใหญ่ภายในใจของพวกเขาขึ้น
ดูเหมือนว่าซาโยโกะจะสามารถมองเห็นรูภายในใจของคนเหล่านั้นได้
และเธอเชื่ออีกว่ารูนั้นสามารถถูกเติมเต็มได้ด้วยแมวนั่นเอง
3.
ความเหงาของคนเมืองเป็นเรื่องจริง
ในชีวิตที่ต้องทำงานในเมืองใหญ่ ดูเหมือนว่าความเหงาจะเป็นศัตรูร้ายกาจที่บั่นทอนจิตใจไม่น้อยเลยทีเดียว นั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เรามักเห็นว่าพอจบมหาวิทยาลัยแล้ว คนส่วนใหญ่ก็มักจะเริ่มมีคู่กันหมด เพราะในสมัยเรียนเรายังอาจได้พบเพื่อน มีกิจกรรมและความทรงจำดีๆ ร่วมกัน แต่เมื่อทำงานแล้วเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมงานและสายสัมพันธ์หลวมๆ รวมไปถึงความกดดันและความไม่จริงใจต่างๆ ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกเหงาง่ายขึ้นกว่าเดิม
สำหรับคนทำงานแล้วการอยู่คนเดียวดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่โหดร้ายเกินไป ความเงียบและความมืดในห้องที่รอคอยอยู่หลังเลิกงานยามเย็นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจรับมือได้โดยง่าย ความเหงาในยามทำงานนั้นทรงพลังถึงขนาดว่ามีใครหลายคนยอมไปเรียนต่อเพื่อให้ได้เจอกับเพื่อนเลยทีเดียว
ดังนั้นคนที่ต้องอยู่คนเดียวในเมืองใหญ่นั้นจึงต้องพยายามหาทางที่จะปิดรูโหว่ความเหงาของตัวเองไว้ด้วยวิธีต่างๆ เพราะหากปล่อยไว้รูนั้นอาจขยายขนาดขึ้น ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
จนในที่สุดรูที่ดำมืดนั้นก็อาจจะกลืนกินตัวเราไปเสียเอง
4.
แต่ละคนที่เช่าแมวไปจากซาโยโกะล้วนมีเรื่องราวที่แตกต่างกัน
ตั้งแต่คุณยายผู้ที่สามีของเธอได้จากไปแล้ว เธอตัดสินใจที่จะเช่าแมวแก่สีส้มจากซาโยโกะไปเพื่อเป็นตัวแทนของ “มามิโกะ” แมวที่เธอเคยเลี้ยงร่วมกับสามีไว้เพื่อหวนรำลึกถึงความทรงจำดีๆ โดยเธอบอกว่าเธอขอยืมแมวตัวนี้จนกว่าเธอจะจากโลกนี้ไป
ชายวัยกลางคนผู้ต้องจากครอบครัวมาทำงานคนเดียวและกำลังมีปัญหาระหองระแหงกับลูกสาวที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขาตัดสินใจขอเช่าแมวจากซาโยโกะไปเพื่อเติมเต็มความเหงาของตัวเอง เขาบอกว่าขอเช่าแมวจากเธอจนกว่าเขาจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง ซึ่งอีกไม่นานแล้ว และในที่สุดเมื่อต้องกลับไปเขาได้ตัดสินใจขอแมวจากเธอกลับบ้านไปกับเขาด้วย
ดูเหมือนว่าแมวของซาโยโกะจะได้ช่วยอุดรูโหว่แห่งความเหงาให้กับใครต่อใครหลายคน จนกระทั่งซาโยโกะได้เจอกับโยชิซาว่า เพื่อนสมัยเรียนที่เคยรู้จักตัวเธอดี ทำให้เธอเริ่มนึกถึงวันเก่าๆ และรู้ว่าความจริงแล้วเธอชอบคลุกคลีกับแมวเป็นเพราะว่าคุณยายของเธอก็ชอบแมวและเลี้ยงแมวจรจัดไว้มากมาย ความสนิทสนมกับคุณยายซึ่งเป็นเหมือนเพื่อนคนเดียวในโลกของเธอ ทำให้เมื่อครั้งคุณยายเสียชีวิตจากไปได้สร้างรูโหว่ขนาดใหญ่ไว้ในใจเธอเช่นกัน
เป็นรูโหว่ที่เธอพยายามเติมเต็มด้วยแมวมากมายที่เธอเลี้ยงอยู่ในขณะนี้นั่นเอง
5.
เราทุกคนต่างมีรูโหว่เป็นของตัวเอง
ใครหลายคนพยายามซ่อนรูนั้นไว้ ในขณะที่ใครอีกหลายคนพยายามเติมเต็มรูนั้นด้วยสิ่งต่างๆ
บางคนอาจเอาแมวมาบังรูไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็นรูโหว่ภายในตัวเอง และใครบางคนก็อาจนำแมวมาอยู่ในรูโหว่นั้นเพื่อเติมเต็มบางอย่างในใจตัวเอง แน่นอนว่าไม่มีเรื่องใดที่เป็นเรื่องที่ถูกและผิด เพราะสิ่งสำคัญคือการก้าวต่อไปข้างหน้า
เหมือนดั่งเช่นที่ซาโยโกะเองก็ไม่รู้ว่ารูโหว่ของตัวเองจะถูกเติมเต็มได้ด้วยแมวจำนวนมากมายขนาดไหน แต่เธอก็ยังตัดสินใจก้าวต่อไปข้างหน้า ให้คนอื่นเช่าแมวจากเธอไปเรื่อยๆ จนดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่เติมเต็มรูโหว่ของเธอก็ไม่ได้มีแค่แมวอีกต่อไป
หากแต่เป็นเรื่องราวและความสัมพันธ์ของเธอกับคนที่เช่าแมวก็ได้ช่วยเยียวยาเธอไปทีละนิดเช่นกัน
แม้รูโหว่ของซาโยโกะอาจจะยังไม่ถูกเติมเต็มในเร็ววันนี้
แต่ซักวันหนึ่ง….มันจะต้องถูกเติมจนเต็มอย่างแน่นอน