หากเอ่ยถึงคำว่า “สาวน้อยมหัศจรรย์” อาจทำให้ใครหลายคนได้ย้อนกลับไปนึกถึงการ์ตูนชื่อดังในอดีตอย่างวันเดอร์วูแมน หรือนิทานก่อนนอนที่เราชื่นชอบกันตั้งแต่เด็กๆ อย่างอลิซ อินวันเดอแลนด์ มันน่าแปลกที่ความทรงจำดีๆ มักจะฝังรากลึกไว้ให้เราเสมอ แม้เข็มของนาฬิกาจะเดินห่างช่วงเวลานั้นไปนานแล้วก็ตาม
เหมือนกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ผมได้พบกับเธอผ่านหน้าจอทีวีเมื่อช่วงปลายปีที่ แล้ว เธอสวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนพับขา พร้อมใส่แว่นตาที่ดูเผินๆ เหมือนจะเป็นเด็กเรียนหน้าห้อง ที่รักในการอ่านหนังสือซะมากกว่า แต่เมื่อเธอเริ่มร้องเพลงตามทำนองในประโยคแรก ก็ทำให้ผมต้องอึ้งกับภาพและเสียงที่ได้ดูอยู่ในขณะนั้น เสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์และการสื่อสารอารมณ์เพลงได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้ผมรู้สึกได้ทันทีว่าเธอคนนี้มีความพิเศษและเต็มไปด้วยพรสวรรค์ทางด้าน การร้องเพลงอย่างแท้จริง สาวน้อยวัย 16 ปี ที่ใช้ความฝันเป็นแรงผลักดันให้เธอได้เดินออกไปข้างหน้า ชื่อของเธอคือ น.ส.สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ หรือน้องอิมเมจ จากรายการ The Voice ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง
“เราชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ แต่การอยากที่จะเป็นนักร้องมันไม่ได้เหมือนกับการอยากเป็นหมอ เพราะถ้าอยากเป็นหมอเราก็อ่านหนังสือ แล้วก็สอบเป็นหมอก็จบ แต่ถ้าเราอยากเป็นนักร้อง ไม่ใช่ว่าเราเรียนร้องเพลง ฝึกร้องเพลง แล้วเราจะได้เป็นนักร้อง มันก็เลยเหมือนกับแค่เราชอบร้องเพลง เราก็เลยร้องมันไปทุกวัน แค่นั้นเอง”
ในรายการ The Voice เพลงสุดท้ายที่น้องอิมเมจเลือกใช้ในการแข่งขันเป็นการนำเอา 2 เพลงที่คนดูอาจจะเข้าถึงได้ยากสักนิดมาต่อกัน ซึ่งเธอก็นำเสนอออกมาได้อย่างน่าฟัและน่าสนใจ ทั้งในแง่ของความหมายและเนื้อหาดนตรีที่ทำให้การแสดงรอบสุดท้ายของเธอในครั้งนี้ สร้างความประทับใจให้กับคนดูอย่างที่สุด ถึงขนาดที่ใครหลายๆ คน ต่างพากันเรียกเธอว่า “สาวน้อยมหัศจรรย์” เลยทีเดียว
“2 เพลงที่รวมกัน มีเพลง Stay with me กับ All I want สาเหตุที่เลือกมาทั้งคู่ เพราะว่าชอบ 2 เพลงนี้มากๆ แล้วเราก็อยากร้องด้วย เลยอยากลองทำดู ส่วนเวลาที่มีคนเรียกเราว่าสาวน้อยมหัศจรรย์ ทุกครั้งเราก็จะรู้สึกเขินๆ นะ และก็อยากบอกว่าขอบคุณมากๆ ด้วย แต่ตัวเราเองก็เป็นแบบนี้มาตลอด เลยไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองพิเศษอะไร แต่ถ้าคนอื่นจะมองว่ามันพิเศษ เราก็รู้สึกดีนะ”
หลังการแข่งขันจบลง ชื่ออิมเมจก็กลายเป็นที่รู้จักของคนในวงกว้างมากยิ่งขึ้น นั่นทำให้เธอเริ่มออกเดินทางไปร้องเพลงตามงานหรือสถานที่ต่างๆ มากยิ่งขึ้น เสมือนเป็นการเติมเต็มความฝันที่เธอคิดเอาไว้ตั้งแต่วัยเด็ก โดยมีศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอคือ Taylor swift และน้องอิมเมจก็ยังฝึกเล่นเปียโนและกีต้าร์อยู่อีกด้วย
“ชอบ Taylor swift เพราะฟังเพลงเค้าแล้วชอบ ก็เลยรู้จักเค้า ข่าวจากสื่อเค้าก็ดูเป็นคนที่น่ารัก แล้วก็แต่งเพลงและเล่นดนตรีเป็นด้วย เลยยิ่งชอบเข้าไปใหญ่”
นอกจากการร้องเพลงที่เธอรักและทำได้ดีแล้ว ในอนาคตเธอยังอยากลองเป็นทั้งช่างภาพ นักเขียน และอีกหลายๆ อาชีพที่เธอบอกว่าอยากลองทำดูสักครั้ง และเธอก็ยังเป็นหญิงสาวที่หลงรักเจ้าแมวเหมียวเอามากๆ อีกด้วย
“ตอนนี้เลี้ยงแมวไว้ 1 ตัว เป็นแมวที่ไปรับมาจากโครงการที่เค้าเอาสัตว์เลี้ยงมาหาบ้าน รับมาตั้งแต่มัน 4-5 เดือนแล้ว ตอนแรกๆ เป็นแมวตัวขาว ตาฟ้า น่ารัก อยู่ไปอยู่มา อยู่ดีๆ ตัวมันมีลายเฉยเลย ก็เลยไม่ขาวแล้ว ซนมาก ตอนนี้ก็อายุจะครบหนึ่งปีแล้ว”
“ที่ชอบแมวเพราะรู้สึกว่าแมวมันสวย แล้วมันก็ดูแลตัวเองได้ คือเราไม่ต้องยุ่งอะไรกับมันมาก นานๆ ถึงอาบน้ำให้ที เพราะปกติ มันก็ทำความสะอาดตัวเองอยู่แล้ว เอาถาดทรายวางไว้มันก็ขับถ่ายเอง เอาอาหารวางไว้มันก็กินเอง ไม่ต้องดูแลอะไรมาก”
สิ่งสุดท้ายที่น้องอิมเมจอยากจะฝากถึงเพื่อนๆ ที่กำลังเดินตามความฝันของตัวเองอยู่ในตอนนี้ ว่าต้องสู้ๆ และอดทนกับสิ่งที่ตัวเองรัก หากมีโอกาสอะไรก็ให้รีบคว้ามันเอาไว้ เพราะมันไม่เคยสาย หากวันนี้เราจะลองเลือกเดินตามความฝัน
เพราะแค่ก้าวแรกที่เราออกเดินทางไปนั้น ก็ถือเป็นความคุ้มค่าที่ครั้งหนึ่งได้เกิดมาใช้ชีวิตแล้ว
สามารถติดตามผลงานน้องอิมเมจได้ที่ Facebook : Image Suthita Official
ขอบคุณภาพถ่ายสวยๆ จากคุณ Nutt911