วันสุดท้ายของแถบคันไซ ในที่สุดก็จะได้ไปโกเบซะที เย้ ! เราไปโกเบด้วยตั๋ว Hanshin Tourist Pass โดยไปซื้อตั๋วที่ Bic Camera Namba Store (เสียเวลาในนี้เป็นชั่วโมง ของมันล่อตาล่อใจมากๆ) จากนั้นตรงจากนัมบะสู่โกเบ คำแนะนำคือให้เลือกขบวนที่เป็น Limited Express (สีแดง) นะ ถ้านั่งแบบ Local นี่เป็นชั่วโมงแน่ๆ เพราะจอดเกือบทุกสถานี
เมื่อถึงโกเบ เสียงท้องร้องบอกเวลาหาอะไรกิน มาถึงโกเบแล้ว สิ่งที่จะพลาดไม่ได้ก็คือ เนื้อโกเบ !!! (ปกติเราไม่กินเนื้อวัว แต่มาแล้วยังไงก็คงพลาดไม่ได้) ร้านสเต็กชื่อดัง Steakland นั่นเอง เข้าไปก็สัมผัสได้ถึงความขลัง เหมือนเข้าไปอยู่ในการ์ตูนญี่ปุ่นยังไงยังงั้นเลย จะนั่งหน้าเคาท์เตอร์ มีพนักงานมารับออเดอร์ และเชฟทำให้ดูกันต่อหน้า เรียกน้ำย่อยได้ไม่เบาทีเดียว เรียกได้ว่าแค่ถั่วงอกก็น่ากินแล้ว ไขมันเยิ้มๆ แทรกในเนื้อ หอมหวานไม่มีที่ติ ความอร่อยไม่ต้องพูดถึงเต็ม 10 นี่ให้ 100 กันเลยทีเดียว
กินเสร็จแล้วก็นั่งรถ Tram ชมวิวรอบๆ เมือง เราสามารถไปขอรายละเอียดทุกอย่างได้ที่ Tourist Information เมื่อขึ้นมาจากสถานี Koba-Sannomiya ก็จะเจอเลย เจ้าหน้าที่ดีมาก พูดภาษาอังกฤษได้ด้วย รถ tram จะมีจอดตามป้ายต่างๆ จะมีคิดราคาเหมา กับเป็นเที่ยว ก็คำนวณกันเลยว่าอย่างไหนคุ้มกว่ากัน อันนี้ต้องแล้วแต่คนนะ
หลังกลับจากโกเบ วันนี้ในที่สุดก็ได้กินปูซะที เย้ ! ไปถึงร้านหกโมงกว่าๆ แต่ต้องรับบัตรคิว เลยไปเดินเล่นอีกรอบ เจอร้าน Takoyaki ละแวกนั้นทีมีปลาหมึกยักษ์ด้านบนแต่รสชาติก็เฉยๆ กลับมาที่ร้านปูดีกว่า เคยมากินก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่งแล้วประทับใจกราแตงปูมากๆ คราวนี้ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม เราสั่งเซตชาบูมากิน มีซูชิ และอีกหลาย ๆอย่าง บริการทุกระดับประทับใจ ส่วนราคานั้นไม่ต้องพูดถึง ป๊าจ่าย อย่างเดียว
กินเสร็จก็เดินเล่นแถวนั้นอีกรอบไปเรื่อยๆ จนถึงที่พักเลย วันนี้รีบเข้านอนพรุ่งนี้ต้อง catch the train เพื่อไปหา Fujisan ที่รัก
TIP & TRICK
ที่พัก
1. ตั๋วเครื่องบินสายการบิน Cathay Pacific ราคา 13,000 กว่าบาท แต่ full service และได้แวะฮ่องกงเที่ยวด้วย แนะนำให้ลองเช็คจาก official website เพราะจากเว็บหาตั๋วถูกไม่ค่อยขึ้น
2. http://airbnb.com เป็นเว็บที่หาห้องพักได้จากทั่วโลก ที่สำคัญราคาไม่แพง ที่เคยไปตกคนละประมาณ 900 บาทต่อคืน มี 2 ห้องนอน ห้องนั่งเล่น+ครัว ห้องน้ำ โฮสใจดีมีของกินมาเตรียมไว้ให้อีก
การเดินทาง
3. การเดินทางใน Osaka มีหลายรูปแบบ หลักๆคือ Subway / JR มีบัตรหลายแบบให้เลือกมีทั้งแบบเหมาเช่น JR pass, Kansai thru pass เป็นต้น หรือแบบเติมเงินคือบัตร ICOCA ซึ่งเราเลือกใช้แบบนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทริปแต่ละคนนะ มาปรึกษาได้
4. Hanshin tourist pass ราคา 500 yen เป็นบัตร unlimited ขึ้นลงกี่เที่ยวก็ได้ภายใน 1 วัน สถานีไหนก็ได้ คือแค่ไปกลับโกเบก็คุ้มแล้วนะ บัตรไม่ได้ซื้อที่สถานีนะ มีขายแค่บางที่เท่านั้น รายละเอียดตามนี้เลย kansai360.net/en/ticket02/
5. จาก Kansai International Airport เข้าสู่เมืองโอซาก้า มีหลายแบบมาก หลักๆ คือกลุ่มรถไฟ JR และรถไฟเอกชน จากประสบการณ์นั่ง Nankai Express ราคาประมาณ 920 เยน กดจากตู้เอาได้เลย ถ้าใครไปกลับที่เดียวกันมีเป็นแพ็คเกจ ICOCA+Haruka ที่ดูคุ้มอยู่นะ
สถานที่ที่ไม่ควรพลาด
6. ร้าน Katsudon อยู่แถวศาลเจ้า Hozenji Yokocho มีพนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ เห็นร้านเล็กๆ แบบนี้แต่ค่อนข้างสะอาดเลยนะ มีเมนูหลากหลาย แนะนำเลย
7. ร้าน Pablo Cheesetart เป็นร้านที่ ต้อง มาชิมถ้ามาถึงโอซาก้า (แต่ตอนนี้ก็มีสาขาที่โตเกียวนะ) ไม่เคยกินแบบนี้ที่ไหนเลย หอมและนุ่มมากๆ จะมีแบบ rare/ medium ให้เลือก เราเลือกแบบ rare จะเละๆ หน่อย
8. ร้าน Ajinoya อยู่แถวร้านปู Kani doraku เป็นอีกร้านที่แนะนำให้ไปลอง
9. Nana’s Green Tea อยู่ที่ตึก Grand front osaka, south wing ชั้น 4 ตึกนี้ร้านขายของน่ารักๆ เพียบ แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงนะ
10. Hagakure ร้านขายอุด้งอีกร้านที่แนะนำให้ไปกิน อ่านรีวิวหลายที่บอกอร่อยไม่เหมือนที่อื่น เส้นทำเอง แต่เราอิ่มมากเลยไม่ได้ไป ร้านอยู่ในห้าง Osaka Ekimae Dai-San building (Osaka Station 3 Building ชั้น2)
11. Steakland ร้านหาไม่ยาก แต่ถ้าสับสนแนะนำให้ถาม Tourist Information เลย เค้าบอกทางค่อนข้างเข้าใจง่าย