เราต่างมีความเชื่อกันมานานว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีสายตาดีมาก บางคนถึงกับยกให้ว่าถ้าจุดเด่นของสุนัขคือจมูกที่ดมกลิ่นได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว จุดเด่นของแมวก็คือการมองเห็นที่คมชัดเฉียบขาดนั่นเอง
แต่รู้หรือไม่ว่าความจริงแล้วสายตาแมวอาจจะไม่ดีอย่างที่เราคิด
เราคงต้องบอกว่าตาแมวนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อมองเห็นได้ดีในที่มืด ในลูกตาแมวนั้นมีจำนวนเซลล์ที่ไวต่อการรับแสงซึ่งช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดีเยอะกว่าในมนุษย์ 6 – 8 เท่า ทำให้แมวสามารถมองเห็นในที่มืดได้ดีราวกับใส่ Night Vision ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว
แต่ในทางกลับกันงานวิจัยแมวยุคใหม่บอกกับเราว่าแมวมองเห็นในที่สว่างได้ไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อมองในที่สว่างรูม่านตาแมวจะหดเล็กลงจนกลายเป็นขีดเพื่อลดการรับแสง และสามารถมองเห็นชัดได้แค่ในระยะ 1 ฟุตเท่านั้น หากไกลกว่านั้นจะเริ่มมองเห็นไม่ชัดแล้ว ทำให้แมวจะเน้นการใช้สายตาไปกับการจับสังเกตสิ่งที่เคลื่อนไหวมากกว่า ซึ่งนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมแมวต้องค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้เหยื่อก่อนที่จะจู่โจมและทำไมถึงหลงใหลที่จะไล่จับอะไรที่ขยับไปมาเสมอ
หลายคนเชื่อกันว่าแมวเป็นสัตว์ที่มองเห็นได้แค่สีเทาสีเดียวเท่านั้น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย แมวสามารถมองเห็นสีฟ้ากับเหลืองได้ แต่จะมองเห็นสีเขียวและแดงได้ไม่ดีนัก ซึ่งในปี 2013 ได้มีนักวิจัยและศิลปินนามว่า Nickolay Lamm ได้ทำการจำลองภาพในมุมมองของแมวจากข้อมูลต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ และสร้างเป็นผลงานภาพถ่ายที่เลียนแบบภาพที่แมวเห็นจริงๆ ซึ่งในผลงานชิ้นนี้เราจะเห็นได้ชัดว่าแมวมองเห็นสีเขียวและสีแดงเป็นสีเหลืองซีดๆ ทำให้เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้วถือว่าคนเราสามารถมองเห็นภาพที่มีสีสันสดใสมากกว่าในแมว
นอกจากนี้แมวยังสามารถเห็นโลกกว้างมนุษย์นิดหน่อย โดยมนุษย์จะมีมุมมองกว้างประมาณ 180 องศา ในขณะที่แมวมองเห็นโลกกว้าง 200 องศา
ภาพจำลองสีปกติที่มนุษย์เห็น จะเห็นว่าในภาพมีสีเขียวกับสีฟ้าสดใสชัดเจน
ภาพจำลองสีที่แมวเห็น (อ้างอิงข้อมูลสีจากงานวิจัยของ Nickolay Lamm) จะเห็นว่าแมวเห็นสีเขียวเป็นสีเหลืองซีดๆ และสีฟ้าจะสดใสเท่าที่ตามนุษย์เห็น