ใครๆ คงเคยได้ยินว่าแมวมี 9 ชีวิต
ความจริงแล้วต้นกำเนิดของตำนานนี้นั้นไม่แน่ชัดว่ามาจากที่ใด แต่ในทางวิทยาศาสตร์แล้วเชื่อกันว่าสาเหตุที่มีความเชื่อว่าแมวมี 9 ชีวิตนั้นอาจมาจากการที่คนสมัยก่อนเห็นแมวตกจากที่สูงแล้วไม่ตาย ทำให้เผลอคิดว่าแมวอาจมีมากกว่า 1 ชีวิต ซึ่งเป็นที่มาของตำนานแมว 9 ชีวิต หรือในบางชาติก็เชื่อกันว่ามี 7 ชีวิต
ความลับของการที่แมวตกมาจากที่สูงแล้วไม่เป็นไรนั้นมาจากร่างกายของแมวที่มีความสามารถพิเศษในการทรงตัวและกลับตัวกลางอากาศ ทำให้สามารถเอาเท้าลงมาที่พื้นได้ทุกครั้งเมื่อร่างกายเสียการทรงตัวและตกจากที่สูง
เมื่อแมวตกจากที่สูง แมวจะมีสัญชาตญาณกลับตัวกลางอากาศทันทีด้วยเวลาเพียงแค่ 1/10 วินาที ซึ่งความสามารถอันน่าทึ่งนี้ถูกควบคุมจากอวัยวะที่ชื่อ Vestibular Apparatus ซึ่งเป็นอวัยวะที่อยู่ในหูชั้นในทำหน้าที่คอยควบคุมสมดุลการทรงตัวและการกลับของแมวนั่นเอง เมื่อแมวกลับตัวเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้เมื่อถึงพื้น ขาทั้ง 4 ข้างยังทำหน้าที่คล้ายกับสปริงทำให้สามารถลดแรงกระแทกได้ดีอีกด้วย
หลายคนอาจถามต่อว่าแล้วแมวสามารถตกได้จากตึกสูงกี่ชั้นถึงจะปลอดภัย ความจริงเรื่องนี้มีงานวิจัยหนึ่งที่น่าสนใจมากอยากเล่าให้ฟัง งานวิจัยชิ้นนี้ทำขึ้นโดย Jared Diamond ซึ่งศึกษาว่าแมวตกจากตึกกี่ชั้นถึงจะเสียชีวิต ซึ่งศึกษาจากกรณีแมวพลัดตกตึกตั้งแต่ 2 – 32 ชั้น เป็นจำนวนรวม 104 ตัว จากผลการศึกษานับว่าชวนให้อึ้งเพราะพบว่าแมวที่ตกจากชั้นประมาณ 4 – 9 นั้นมีโอกาสบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุดเสียอย่างนั้น ไม่ใช่แมวที่ตกมาจากชั้นสูงๆ เช่น ชั้นที่ 32 เลย
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้มีหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งอธิบายได้ง่ายๆ ว่าแมวที่ตกจากตั้งแต่ชั้น 9 เป็นต้นไปจะเป็นความสูงที่มากพอเกิดแรงต้านอากาศและมีเวลาในการตกเหลือพอให้แมวจัดร่างกายพร้อมรับแรงกระแทกอย่างสมบูรณ์ ประกอบกับแมวมีน้ำหนักน้อยทำให้แรงปะทะเมื่อถึงพื้นไม่มาก ส่งผลให้ไม่บาดเจ็บถึงเสียชีวิตนั่นเอง
แต่ในชั้นที่ 4 – 9 นั้น แม้จะมีแรงต้านอากาศช่วย แต่ความสูงที่น้อยลงทำให้เมื่อแมวตกลงมาไม่มีเวลามากพอจะจัดท่าเตรียมรับแรงกระแทกได้อย่างสมบูรณ์ทำให้ช่วงระหว่างชั้นนี้เมื่อแมวตกลงมาแล้วมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่า ส่วนในชั้นที่ต่ำกว่าชั้น 4 แม้ว่าช่วงเวลาตกจะสั้นมาก แต่ด้วยความสูงที่ไม่สูงมากนักทำให้แรงกระแทกไม่มากตามไปด้วย แมวจึงไม่เสียชีวิตนั่นเอง