บางครั้งเราอาจขาดบางสิ่งบางอย่างไปเพื่อที่จะได้เติมเต็มซึ่งกันและกัน
เหมือนกับเรื่องราวของ “เอเบิ้ล” แมวผู้โชคร้ายประสบอุบัติเหตุจนเหลือเพียงแค่ 2 ขา จนกระทั่งได้พบกับ คุณปู – วลัย มฤคทานนท์ เก็บมาเลี้ยงจนทำให้เอเบิ้ลสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้งแม้มีเพียงขาสองข้างไม่เหมือนแมวตัวอื่นๆ ก็ตาม
คุณปูเล่าให้เราฟังว่าเรื่องราวของการพบกันของเธอกับเอเบิ้ลนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นเอเบิ้ลเป็นแมวจรจัดที่อาศัยอยู่ในบริเวณคอนโดที่เธออยู่ ด้วยความที่เป็นแมวที่มีนิสัยซุกซนทำให้วันหนึ่งเอเบิ้ลปีนขึ้นไปไล่จับนกบนหลังคาและชนกับหม้อแปลงไฟฟ้าที่อยู่บนเสาไฟฟ้าพอดี ผลจากการโดนไฟฟ้าแรงสูงช็อตทำให้เอเบิ้ลหางขาดทันทีและขาหน้าทั้งสองไหม้เกรียม
“ตอนแรกคนแถวนั้นคิดว่าเอเบิ้ลตายแล้วแน่นอน เพราะโดนไฟช็อตแรงมาก แต่ปรากฏว่าเอเบิ้ลยังไม่ตาย แต่ก็อยู่ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัสมาก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อก้นที่ใช้งานไม่ได้จนลำไส้ไหลออกมาจากรูก้นและขาหน้าทั้งสองข้าง ทำให้สุดท้ายคนแถวนั้นช่วยกันรวมเงินพาน้องเอเบิ้ลไปหาคุณหมอและต้องตัดขาหน้าทั้ง 2 ข้าง”
หลังจากถูกตัดขาหน้าแล้ว เอเบิ้ลพยายามที่จะหัดเดินด้วย 2 ขาหลังตั้งแต่วันแรก แม้ว่าจะล้มอยู่หลายครั้ง ซึ่งความพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปของแมวตัวนี้ได้ประทับใจคุณปูมาก แต่ด้วยงานที่ทำจำเป็นต้องออกต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ ทำให้เธอยังไม่มั่นใจว่าจะดูแลเอเบิ้ลได้
จนในที่สุดช่วงใกล้วันสงกรานต์มีฝนตกหนัก คุณปูได้พบกับเอเบิ้ลอีกครั้งในสภาพที่นอนอยู่ในที่ตักขยะ เนื้อตัวสกปรกและน่าสงสารมากเพราะแผลยังไม่หายดี ภาพที่เห็นในวินาทีนั้นทำให้คุณปูตัดสินใจทันทีว่าจะต้องเลี้ยงแมวตัวนี้ให้ได้
“พอตัดสินใจได้แล้วเราก็อุ้มเขามาที่ห้องเช็ดเนื้อเช็ดตัว ที่นี้เอเบิ้ลก็หลับปุ๋ยคาตักเราเลย”คุณปูหัวเราะ “พอมาอยู่ด้วยกันแล้วเขาก็เหมือนรู้ เจียมตัวอยู่แต่ในเบาะไม่เพ่นพ่าน เพราะน้องเขายังมีปัญหาไส้ไหลออกมาจากรูก้นอยู่ ทำให้ห้องเลอะเทอะและมีกลิ่นแรงมาก”
ในช่วงแรกที่อยู่ด้วยกันเอเบิ้ลยังคงพยายามสู้เต็มที่ ผ่านการผ่าตัดและรักษาอีกหลายครั้งจนในที่สุดก็สามารถเย็บลำไส้ติดกับผนังหน้าท้องจนเกือบหายเป็นปกติ และยังฝึกหัดเดินด้วย 2 ขา จากที่เคยล้มวันละหลายครั้งจนในที่สุดก็สามารถเดินได้คล่อง แถมยังสามารถขึ้นลงบันได กระโดดขึ้นที่สูงอย่างปราดเปรียวไม่แพ้แมวที่มี 4 ขาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเราถามถึงการดูแลเอเบิ้ลว่ามีอะไรแตกต่างจากแมวปกติทั่วไปไหม คุณปูบอกว่าสิ่งที่ต้องระวังมีเพียงแค่อย่าให้อุจจาระแข็งเพราะกล้ามเนื้อก้นค่อนข้างอ่อนแอ ถ้าเบ่งมากอาจจะเกิดแผลปริแตกได้ เลยต้องดูเรื่องอาหารให้เป็นอาหารเหลวและนิ่มเป็นพิเศษ ซึ่งมีเคล็ดลับสำคัญคือให้ฟักทองนึ่งเสริม ซึ่งเป็นของโปรดของเอเบิ้ลอีกด้วย
คุณปูเล่าให้เราฟังอีกว่าสิ่งที่เอเบิ้ลโปรดปรานคือการได้กระโดดไปอยู่ในที่สูงๆ ทั้งโซฟา โต๊ะ หรือแม้กระทั่งขอบกำแพงบ้านเอเบิ้ลก็สามารถพิชิตมาได้หมดแล้ว และกิจกรรมโปรดอีกอย่างคือการได้แอบมองนกและคนที่เดินผ่านไปมาทางหน้าต่าง
“เอเบิ้ลชอบส่องนกมาก เราก็เลยจัดบ้านให้เขามีที่สำหรับมองออกไปข้างนอกได้ จัดเป็นที่โปรดริมหน้าต่างให้เขาเลย แถมเขายังเป็นแมวที่รับแขก เล่นกับคนแปลกหน้าด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ชอบให้อุ้ม เพราะคนส่วนใหญ่อุ้มแมวด้วยความเคยชิน เวลาปล่อยแมวส่วนใหญ่จะกระโดดลงเองได้ แต่เอเบิ้ลกระโดดไม่ได้ พอปล่อยก็หัวทิ่มทุกที เขาเลยไม่ชอบให้คนอุ้มเลย”
ปัจจุบันเอเบิ้ลมีแมวรุ่นน้องร่วมบ้านอีกหนึ่งตัว ชื่อว่า “ฟินฟิน” เป็นแมวสามสีที่พิการช่วงสองขาหลังเป็นต้นไป ซึ่งเป็นแมวหาบ้านที่คุณปูได้รับมาเลี้ยงอีกตัวหนึ่งมาเป็นเพื่อนกับเอเบิ้ล ซึ่งทั้งเอเบิ้ลกับฟินฟินนิสัยเข้ากันได้เป็นอย่างดี สามารถอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข โดยเอเบิ้ลเป็นพี่ใหญ่คอยตามใจฟินฟินอยู่เสมอ
บางครั้งชีวิตคนเราอาจเลือกไม่ได้ว่าจะต้องพบเจอกับอะไรและต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง แต่ชีวิตของแมวใจสู้อย่างเอเบิ้ลน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีว่าแม้ว่าเราจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่บีบคั้นแค่ไหน แต่เราก็ยังสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการได้ ตราบใดที่หัวใจของเราไม่ยอมแพ้
บางที…นี่อาจเป็นความลับของเอเบิ้ล
และเป็นความลับที่อยู่ในตัวเราทุกคนด้วยเช่นกัน
