ถ้าคุณเห็นตึกกำลังจะถล่มคุณจะวิ่งเข้าไปไหม
เพียงพริบตาเมื่อเครื่องบินสองลำได้พุ่งเข้าชนตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ อันเป็นการก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เหล่าทีมกู้ภัยและสุนัขตำรวจได้มุ่งตรงไปยังตึกทั้ง 2 อย่างไม่ลังเล แม้ว่าสถานการณ์ในบริเวณขณะนั้นอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ตลอดเวลา
ในการกู้ภัยนั้นสุนัขถือเป็นหนึ่งในทีมงานที่มีความสำคัญมาก เพราะจมูกสุนัขสามารถดมกลิ่นได้ดีและสามารถค้นหาผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในซากปรักหักพักดีกว่าคนหรือเครื่องมือใดๆ ที่เราสามารถสร้างได้ขณะนี้ ซึ่งในปฏิบัติการกู้ภัยในเหตุการณ์ 9/11 ก็ได้มีการใช้สุนัขตำรวจและสุนัขกู้ภัยจำนวนเกือบ 300 ตัว มาปฏิบัติหน้าที่ด้วยเช่นกัน ซึ่งสุนัขที่โดดเด่นในปฏิบัติการครั้งนั้นมีอยู่ 3 ตัว คือ Apollo, Sirius และ Bretagne
หลังเครื่องบินพุ่งชนตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ สุนัขตำรวจพันธุ์เยอรมัน เชปเพิร์ด นามว่า Apollo และ Peter Davis เจ้าหน้าที่ควบคุมได้รับการแจ้งถึงการก่อวินาศภัยและรีบเดินทางไปยังตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ทันที พวกเขาไปถึงเป็นทีมแรกๆ และ Apollo ก็เป็นสุนัขตัวแรกที่เข้าไปในพื้นที่ ซึ่งการปฏิบัติงานครั้งนั้น Apollo เกือบตายจากการถูกไฟคลอกและถูกซากปูนหล่นทับ แต่ Apollo ก็ยังสามารถเอาชีวิตรอดและปฏิบัติงานได้จนสำเร็จ
แต่ดูเหมือนว่าสุนัขลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ที่มีชื่อว่า Sirius จะไม่ได้โชคดีเช่นนั้น Sirius เป็นสุนัขตำรวจที่อยูในตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ ทำหน้าที่คอยค้นหาวัตถุระเบิด หากแต่เมื่อเครื่องบินพุ่งชนตึกทำให้ตึกถล่มและ Sirius ก็ได้เสียชีวิตลง ทำให้ Sirius เป็นสุนัขตำรวจตัวเดียวที่เสียชีวิตจากการก่อวินาศกรรมครั้งนี้
ภายหลังจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เมื่อ 16 ปี ผ่านไป ในบรรดาเหล่าสุนัขกู้ภัยที่ปฏิบัติภารกิจ 9/11 Bretagne สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ สุนัขตัวสุดท้ายของทีมก็ได้จากไปด้วยอาการไตวาย แม้ว่าตอนนี้ทีมสุนัขกู้ภัยทั้งหมดจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว
แต่คุณงามความดี ความกล้าหาญ และความเสียสละ ที่พวกเขาได้เคยทำไว้ จะยังคงอยู่ในใจพวกเราตลอดไป
ภาพตัวจริงของ Apollo สุนัขกู้ภัยตัวแรกที่ไปถึงตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์
(ที่มาภาพ : 3MillionDogs)
ภาพตัวจริงของ Sirius สุนัขตำรวจที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ 9/11
(ที่มาภาพ : NY Daily News)
.
ภาพ Bretagne สุนัขกู้ภัยในทีม 9/11 ที่ได้จากโลกนี้ไปเป็นตัวสุดท้ายของทีมช่วยเหลือกว่า 300 ตัว
(ที่มาภาพ : assets.nydailynews.com)