กระต่ายเด็กหน้าตาขี้เล่น ตาเล็กตี่มาดเกาหลี มีมาร์กสีน้ำตาลเป็นถุงเท้าทั้งขาหน้าและขาหลัง ที่หูและที่หน้าก็มีมาร์กสีน้ำตาลดูไปก็คล้ายๆ แมววิเชียรมาศ
ขนนิ่มๆ นุ่มๆ ฟูๆ ที่เป็นลักษณะพิเศษของสายพันธุ์มินิเร็กซ์หรือกระต่ายขนกำมะหยี่ทำให้รู้สึกดีเวลาที่เราเอามือลูบไปบนตัว
ความอวบกลมของขนสีขาวอมน้ำตาลชมพูบางๆ ทำให้มองดูเหมือนเนื้อกระท้อนกลมๆ ขาวปุยใส
และนี่ก็เป็นที่มาของชื่อเจ้า “กระท้อน” น้อย
“กระท้อน” เป็นกระต่ายอารมณ์ดี ขี้อ้อน ชอบคน ชอบสะบัดหัวและทิ้งตัว 360 องศานอนตะแคงอวดพุงขาว ทำให้ใครๆ เห็นก็รักเจ้ากระท้อนความน่ารักของเจ้ากระท้อนน้อยก็มักจะทำให้ได้รางวัลเป็นขนมพิเศษเสมอๆ
3 ปีผ่านไป เจ้ากระท้อนน้อยคงจะสะสมรางวัลความน่ารักมากเกินไปหน่อย ทำให้หนุ่มเกาหลีกลายเป็นตี๋อ้วน หน้าตาที่ดูขี้เล่นเมื่อตอนเด็กกลายเป็นดูเจ้าเล่ห์ นิสัยขี้อ้อนที่ดูน่ารักกลายเป็นความเอาแต่ใจปนตะกละ หัวที่เล็กกว่าปกติเมื่อเทียบกับตัวที่หนุนหนันขนสีขาวอุยอ้วนกลม ทำให้ผมเริ่มมองว่ามันไม่ใช่กระต่ายแต่ได้กลายเป็น “ลูกหมู” ไปแล้ว
“ไอ้มู๋” กลายเป็นชื่อใหม่ที่เหมือนออกมาจากจิตใต้สำนึก เวลาเรียกก็จะจิกหัวเรียกหน่อยๆ และดูเหมือนว่าไอ้มู๋มันก็ออกจะพึงพอใจกับชื่อใหม่ซะด้วย ผมก็ว่าเหมาะสม เดี๋ยวนี้เรียกกระท้อนไม่หันแล้วต้องเรียกไอ้มู๋ถึงจะหันและถ้ามีการเขย่าถุงขนมประกอบ ไอ้มู๋ก็จะดริฟมาหาด้วยความเร็วแสง วิ่งพันแข้งพันขายืนสองเท้า บางครั้งก็ปีนขึ้นมาบนตัวผม เกาะไหล่ทำตามีประกาย ทั้งหมดก็เพื่อขอขนม พอกินอิ่มก็นอนอืดตะแคงตัวหัวหนุนเหนียงหนาๆ และถ้าอากาศดีหรือเปิดแอร์ก็กลิ้งม้วน 360 องศาตามระเบียบ
เลี้ยงกระต่ายตอนเด็กได้หมูตอนโต หนา นุ่ม แน่น หนุนหนัน ฟัดมันส์ อารมณ์ดีกับการขอขนมไปวันๆ อย่างมีความสุข และตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ผมเพิ่งรู้ตัวว่าการได้มองดูไอ้มู๋ที่มีความสุขทุกวันได้กลายเป็นความสุขของผมไปซะแล้ว ความสุขของผมคือการเห็นไอ้มู๋มีความสุข ไอ้มู๋อาจจะกำลังบอกเราว่าการมีชีวิตอย่างมีความสุขจะทำให้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วย
บางทีนี่อาจเป็นตัวอย่างของการแบ่งปันความสุขให้กันและกันอย่างง่ายๆ แค่นี้เอง