ตั้งแต่เมื่อราวๆ ต้นปี เรา 2 คนได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่ พร้อมกับที่มีสมาชิกใหม่ “จั่วปัง” แมวตัวน้อยสีขาวส้ม ที่เราช่วยมันเอาไว้ตอนบาดเจ็บ แล้วตัดสินใจเก็บมันมาเลี้ยงในเวลาต่อมา
ด้วยความที่เป็นบ้านใหม่ ทำให้เรา 2 คนค่อนข้างเหงานิดๆ หลายครั้งที่จะมีใครคนหนึ่งต้องไปทำธุระต่างจังหวัด และใครคนหนึ่งต้องอยู่เฝ้าบ้าน ความเหงาและเงียบของบ้านเวลาที่อยู่คนเดียว บวกกับความยังไม่เคยชินที่ทาง ทำให้รู้สึกวังเวงเคว้งคว้างข้างในบอกไม่ถูก
“เมี้ยว…เอี๊ยว…เอี๊ยว…เอี๊ยว…” เสียงร้องแบบนี้ของจั่วปังในเวลาที่วิ่งมาหาตอนหิว มักจะทำให้เราตลก
“กินอีกแล้วเหรอ”
“จั่วปังไปไหนมา”
“ไปเล่นอะไรมา ทำไมตัวเลอะสีแบบนี้”
“หิวจัง ไปหาอะไรกินในครัวดีกว่า จั่วปังไปไหม”
ใช่แล้ว ในเวลาแบบนั้น เราคนใดคนหนึ่งที่อยู่บ้านคนเดียว จะมีจั่วปังเป็นเพื่อน ไม่ใช่แค่เพื่อนคุย (ฝ่ายเดียว) แต่เป็นเพื่อน แบบที่ไม่ว่าเราจะเดินไปไหนในบ้าน โดยเฉพาะช่วงกลางคืน จั่วปังจะคอยเดินตามไปด้วยและอยู่เป็นเพื่อน คอยสอดส่องสัตว์ร้ายในบ้าน ก่อกวนบ้าง เล่นซนบ้าง ให้เรามีเรื่องได้พูดคุยกับมันไม่หยุด ทำให้การต้องอยู่บ้านคนเดียวนั้นไม่เคยเหงาอีกเลย
เจ้าแมวตัวขาวส้มตัวนี้ จึงไม่เคยถูกมองว่าเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะมันคือเพื่อน คือครอบครัว คือความหมายและส่วนเติมเต็มของคำว่า “บ้าน”
“ง่วงรึยัง…เข้าไปนอนกันเถอะ” จั่วปังเดินตามเข้ามาในบ้านและกระโดดขึ้นเตียง ก่อนเราคนหนึ่งจะถ่ายรูปคู่กับจั่วปังแล้วส่งไปยังใครอีกคน
“ฝันดีนะ”
🙂
ปล.เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา คุณมุนินฺได้แจ้งเราว่า จั่วปังได้จากโลกนี้ไปแล้วจากอุบัติเหตุรถยนต์…..หลับให้สบายนะ จั่วปัง