ย้อนกลับไปที่บ้านต่างจังหวัดสมัยผมยังเด็ก บ้านไม้ 2 ชั้น มีสนามหญ้าเล็กๆ
มียาย พ่อ แม่ น้าสาว พี่สาว ผม และหมาอีกสามตัว ‘ซูซี่’ สีดำขาสั้นเป็นพี่ใหญ่ “แด็กกี้” สีด่างบางแก้วเป็นพี่รอง “ซูโม่” อ้วนเตี้ยสีขาวเป็นน้องเล็ก พ่อรับทั้ง 3 ตัว มาเลี้ยงเพื่ออยู่เป็นเพื่อนยายและช่วยเฝ้าบ้าน
พ่อรักพวกมันพอๆ กับที่รักเรา จึงไม่แปลก ไม่ว่าผมและพี่สาวได้ทำอะไร
พวกมันก็จะได้มีส่วนร่วมด้วยเสมอ…
ทุกวันอาทิตย์ พ่อตั้งให้เป็น “วันเล่น” ของพวกเรา พ่อจะพาเราเล่นอะไรใหม่ๆ ทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำ หรือไปในที่ ที่ไม่เคยไป และอาทิตย์นี้พ่อจะพาเราไป “หัดว่ายน้ำ” พี่สาวว่ายน้ำเป็นแล้วเพราะไปเรียนพิเศษกับครูที่สระในตัวเมือง ส่วนผม ซูซี่ แด็กกี้ และซูโม่ เคยแค่แช่อยู่ในสระพลาสติกของเล่น วันนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้ว่ายน้ำกันจริงๆ เราตื่นเต้นมาก ทันทีที่พ่อเรียกพวกเราขึ้นรถ เรากระดิกหางตัวสั่นกันเลยทีเดียว
ที่ที่พ่อพาไปนั้นไม่ใช่สระว่ายน้ำ แต่เป็นแพร้านอาหารริมน้ำ เพราะถ้าไปที่สระ ซูซี่ แด็กกี้ และซูโม่ คงลงไปด้วยไม่ได้ เมื่อไปถึงพี่สาวผมรีบเปลี่ยนชุด ใส่ห่วงยางสีสดใสกระโดดลงไปก่อนเลย ผมกลัวมากเพราะมันไม่เหมือนสระที่เคยไปดูตอนพี่สาวเรียนว่ายน้ำ มันดูลึก กว้างใหญ่ และน่ากลัวกว่ามาก ทำให้ผมร้องไห้งอแงไม่ยอมลง แต่ทันใดนั้นเอง…
ตูม !!!
ซูซี่และแด็กกี้กระโดดลงไปตามเสียงเรียกของพี่สาว ส่วนซูโม่ตัวสั่นด้วยความกังวลคล้ายผม พ่อยิ้มให้เราทั้ง 2 คนและอุ้มซูโม่พลางค่อยๆ หย่อนลงน้ำเบาๆ ทันทีที่ขาซูโม่สัมผัสถึงผิวน้ำ ขาหน้าก็ตีโดยอัตโนมัติ พ่ออุ้มซูโม่ค้างไว้แบบนั้นแล้วบอกว่า ทำแบบนี้ตามซูโม่แล้วจะไม่จม พอปล่อยมือซูโม่ก็รีบตีขาว่ายน้ำอย่างรวดเร็วไปหาพี่สาว ซูซี่ และแด็กกี้ ที่ลอยน้ำรอรับอยู่แล้ว…
เสียงดนตรีประกอบหน้าร้อน แสงแดดที่ระยิบระยับที่กระทบบนผิวน้ำ ความเย็นชุ่มฉ่ำใต้น้ำ เสียงหัวเราะ รอยยิ้มของพี่สาวและพ่อ น้ำที่กระเด็นจากขาที่ตีไม่หยุดของพวกเรา
“ท่าลูกหมาตกน้ำคือท่าแรกที่ผมว่ายเป็น”