ใครจะคิดว่า ณ ทุ่งหญ้าเขียวขจีอันไพศาลของประเทศออสเตรเลีย จะมีหมาป่าแฝงกายรวมอยู่กับบรรดาจิงโจ้และกระต่ายที่น่ารักด้วย พวกมันเป็นสายพันธุ์เก่าแก่ ที่สามารถสืบทอดพันธุกรรมให้เดินทางข้ามผ่านกาลเวลามาถึงยุคปัจจุบันได้ ดังเราจะเห็นได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ภาพเขียนสีบนผนังถ้ำของชาวอะบอริจิน ชนพื้นเมืองโบราณของออสเตรเลีย ก็มีรูปของพวกมันรวมอยู่ด้วย แถมพวกมันยังเป็นต้นกำเนิดของพิธีกรรมและนิทานก่อนนอนของชนพื้นเมืองโบราณที่เล่าสืบทอดต่อๆ กันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ใช่แล้ว…หมาป่าที่เรากำลังพูดถึง นั่นก็คือ “Dingo” หมาป่าผู้ร่อนเร่แห่งดินแดนออสเตรเลียนั่นเอง
สิ่งที่น่าทึ่งของหมาป่านักล่าสายพันธุ์นี้ คือพวกมันสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสภาพภูมิประเทศที่แตกต่างหลากหลายได้ทั่วทั้งประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่ภูเขาสูงที่มีหิมะปกคลุมในภาคตะวันออก ที่ราบที่ปกคลุมไปด้วยหญ้า ป่าฝนเขตร้อนชื้นทางภาคเหนือ หรือแม้แต่ในทะเลทรายสุดแห้งแล้งทางตอนกลางของประเทศ ขอเพียงแค่มีโพรงกระต่าย หรือโพรงไม้เก่าๆ ให้พวกมันใช้หลบภัยได้ก็พอ นอกจากนี้เรายังสามารถพบ Dingo ในแถบเอเชียหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย
แม้จะมีรูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายสุนัขบ้านมาก แต่พวกมันกลับมีสัญชาตญานของหมาป่าอยู่ในสายเลือดอย่างเต็มเปี่ยม Dingo สามารถรวมตัวออกล่าเหยื่อเป็นฝูงเพื่อล้มจิงโจ้ตัวใหญ่ หรือออกล่าเพียงลำพังหากต้องการแค่กระต่ายตัวเล็กๆ อีกทั้งยังว่องไวและฉลาดพอที่จะสามารถขโมยเหยื่อที่พวกนกอินทรีหาได้เอามาเป็นอาหารของตัวเอง
แต่เพราะเป็นนักล่า พวกมันจึงมักก่อความเสียหายให้กับฝูงปศุสัตว์ของชาวบ้านอยู่เนืองๆ ถึงขั้นในปี ค.ศ. 1880 ต้องมีการสร้างแนวรั้วกั้นที่เรียกว่า “Dingo Fence” ขึ้นในประเทศออสเตรเลีย ความยาวตั้งแต่รัฐ New South Wales ทอดข้ามผ่านทะเลทราย Strzelecki ไปจรดที่ Queensland รวมแล้วระยะทางกว่า 2,225 กิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้นักล่าผู้เก่งกาจเข้ามาทำลายฝูงปศุสัตว์ แม้จะได้ผลก็จริง แต่ขณะเดียวกันกลับทำให้ประชากรของจิงโจ้และกระต่ายเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในเวลาต่อมา นั่นก็เพราะความไม่สมดุลกันของห่วงโซ่อาหาร ซึ่งมนุษย์กำลังพยายามฝืนธรรมชาติที่สร้างสรรค์มาแล้วนั่นเอง
ในปัจจุบัน ทาง IUCN ได้ประกาศให้ Dingo สายพันธุ์แท้ เป็นหมาป่าหายากและมีคุณค่าสายพันธุ์หนึ่งของโลก แม้พวกมันจะไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบรรดาเจ้าของปศุสัตว์สักเท่าไหร่ แต่นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุหลักของการลดจำนวนลงของประชากร Dingo พันธุ์แท้นี้ ทว่ากลับมาจากการที่พวกมันมีการผสมข้ามพันธุ์กับสุนัขบ้านมากจนเกินไป จนทำให้สายเลือดแท้กำลังค่อยๆ จางหายไปจากธรรมชาติ และทำให้เราสามารถหาตัวมันพบยากขึ้นทุกทีๆ