หนึ่งในสุนัขจิ้งจอกที่คนไทยน่าจะรู้จักดี คงจะหนีไม่พ้นเจ้า Fennec fox สุนัขจิ้งจอกตัวเล็กที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่แล้วมีน้ำหนักตัวเพียง 2 กิโลกรัมเท่านั้น พวกมันมีถิ่นกำเนิดอยู่ห่างไกลถึงในทวีปแอฟริกา และสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบายในทะเลทรายซาฮาร่าอันแห้งแล้ง นั่นก็เพราะมีอุ้งเท้าหนาที่ปกคลุมไปด้วยขน ซึ่งจะช่วยเป็นชนวนกันความร้อนเวลาที่เหยียบย่างลงบนพื้นทราย พร้อมกับใบหูอันใหญ่ยักษ์ที่สามารถระบายความร้อนได้ดี นอกจากนี้ พวกมันยังมีขนลำตัวยาวสีครีมคอยปกป้องร่างกายจากสภาพอากาศเย็นจัดในยามค่ำคืน แถมยังทำให้ดูกลมกลืนกับผืนทรายในยามกลางวันอีกด้วย
คำว่า “Fennec” มาจากคำภาษาอาราบิค “Fanak” ที่แปลว่าสุนัขจิ้งจอก ชาวอาหรับตั้งแต่เขตประเทศอัลจีเรีย อียิปต์ ลิเบีย ซูดาน และโมรอคโค รู้จักพวกมันเป็นอย่างดีในฐานะนักล่ายามราตรีแห่งทะเลทราย พวกมันเป็นจิ้งจอกรักสันโดษที่จะไม่อยู่รวมกันเป็นฝูงเหมือนกับหมาป่า นั่นก็เพราะว่าอาหารที่พวกมันต้องการก็คือพวกแมลง หนู กิ้งก่า นก และผลไม้ ซึ่งไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไรในการหากินเพียงลำพัง อีกทั้งพวกมันยังอาศัยความชื้นเพียงเล็กน้อยจากอาหารที่กิน จึงแทบไม่ต้องพึ่งพาแหล่งน้ำในการดำรงชีพเลย
ความที่ตัวเล็กและว่องไว จิ้งจอกทะเลทรายสายพันธุ์นี้จึงเป็นนักขุดชั้นเลิศ พวกมันสามารถสร้างโพรงใต้พื้นทรายหรือใต้ดินที่แข็งแรงพอได้เป็นพื้นที่กว่า 120 ตารางเมตร ภายในประกอบด้วยทางเดินซับซ้อนวกวนราวเขาวงกต และมีทางเข้าออกไม่ต่ำกว่า 15 แห่ง โพรงเหล่านี้ พวกเพศเมียจะใช้ในการคลอดและเลี้ยงลูกตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคมของแต่ละปี โดยพวกมันจะให้ลูกได้ปีละ 1-4 ตัว
ปัจจุบัน Fennec fox เป็นที่รู้จักแพร่หลายในนามของสัตว์เลี้ยง และยังคงถูกล่าด้วยน้ำมือมนุษย์เพื่อเอาขนและหนังอยู่บ้างในแถบตอนเหนือของแอฟริกา แต่ก็นับว่าเริ่มมีการตื่นตัวในด้านการอนุรักษ์และมีกฎหมายคุ้มครองออกมาบ้างแล้วในบางประเทศ
จะว่าไปแล้วก็น่าเสียดายที่จิ้งจอกทะเลทราย กำลังกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงโก้เก๋ในป่าคอนกรีต…หรือว่าอาจเป็นการดี ที่พวกมันคงยังไม่สูญพันธุ์ไปจากโลกในเร็ววันนี้ ตราบใดที่มนุษย์ยังต้องการพวกมันอยู่ ไม่ว่าจะในฐานะใดก็ตาม