ใครที่เคยดูภาพยนตร์แอนนิเมชันสุดคลาสสิคจากค่ายดิสนีย์เรื่อง Lady and the tramp คงจะต้องคุ้นหน้าคุ้นตากับสุนัขผู้มารับบทนางเอกของเรื่องเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือสุนัขพันธุ์ Cocker Spaniel นั่นเอง และด้วยแววตาและรูปลักษณ์อันแสนอ่อนโยน จึงทำให้สุนัขสายพันธุ์ Cocker Spaniel กลายเป็นที่รักของใครหลายๆ คน…
แต่เชื่อหรือไม่ว่า ในอดีตนางเอกหน้าหวานพันธุ์นี้กลับถูกเพาะพันธุ์ขึ้นมาเพื่อใช้ในการล่านกโดยเฉพาะ และยังถูกจัดเป็นสุนัขสายพันธุ์เล็กที่สุดในกลุ่มที่ใช้สำหรับเกมกีฬาอีกด้วย
“Spaniel” มาจากคำว่า Spain อันเป็นประเทศผู้ให้กำเนิดสุนัขสายพันธุ์นี้ ส่วนคำว่า “Cocker” เป็นฉายาที่ได้มาจากความสามารถในการล่านก Woodcock (นกปากซ่อมดง) นั่นเอง ต้นตระกูลของสุนัข Spaniel เป็นหนึ่งในสุนัขที่เก่าแก่ที่สุดของโลก พวกมันเดินทางมาถึงเกาะอังกฤษในยุคสมัยของจูเลียส ซีซาร์ คือเมื่อกว่า 55 ปีก่อนคริสตกาล กระทั่งมีปรากฏนามอยู่ในบทประพันธ์ของกวีชาวอังกฤษชื่อก้องโลกอย่าง วิลเลียม เช็คสเปียร์ ในบทพูดของ Macbeth (จากเรื่อง Macbeth) และ Launce (จากเรื่อง Two Gentlemen of Verona)
ต่อมาช่วงปี ค.ศ.1600 สายพันธุ์ Spaniel ก็ถูกแบ่งเป็น Water Spaniel (ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว) และ Land Spaniel อย่างชัดเจน โดย Land Spaniel สามารถแบ่งได้อีกเป็น Setting Spaniel และ Springing Spaniel ซึ่งล้วนแต่ถูกใช้เป็นสุนัขผู้ช่วยในการล่านกทั้งสิ้น กระทั่งในศตวรรษที่ 17 บทบาทของพวกมันก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อชาวยุโรปหันมาใช้ปืนไฟ (Arquebus) ในการล่าสัตว์ ทำให้พวกมันเริ่มถูกฝึกให้ทำตามคำสั่งได้มากขึ้น จากที่เมื่อก่อนทำได้แค่การไล่ต้อนเท่านั้น
ต่อมาการพัฒนาสายพันธุ์ของพวกมันก็มีมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงศตวรรษที่ 19 หนึ่งในสามตัวของครอกลูกสุนัขทายาทของ Springing Spaniel ก็ได้กลายมาเป็นต้นตระกูลของสายพันธุ์ Cocker Spaniel ในที่สุด ซึ่งทั้งชื่อสายพันธุ์และรูปวาดของพวกมันก็ปรากฏอยู่ในหนังสือเรื่อง The Dog in Health and Disease ของ John Henry Walsh (นามปากกา Stonehenge) ที่เขียนขึ้นราวปี ค.ศ.1859 อีกด้วย
แม้ว่าในปัจจุบัน เราคงไม่ได้ใช้พวกมันสำหรับเกมกีฬาล่าสัตว์เหมือนเช่นในอดีต แต่สัญชาตญาณและความว่องไวของพวกมันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ซ่อนอยู่ภายใต้แววตาและรูปลักษณ์อันแสนหวานนี่เอง