Published on ISSUE 15
ชาวซามอยด์รักสุนัขซามอยด์และดูแลเหมือนสมากชิกในครอบครัวของเขา ให้อาศัยอยู่รวมในเต็นท์โนแมด เพื่อมอบความอบอุ่นให้แก่คนในเต็นท์ เพราะขนที่หนารวมถึงอุณหภูมิร่างกายที่อบอุ่นของซามอยด์จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นได้ ซามอยด์จึงผูกพัน เข้าใจ และเป็นมิตรกับมนุษย์มาก

Samoyed : เมื่อเราต่างเป็นครอบครัวเดียวกัน

เรื่อง howl the team ภาพ : เลขา

ซามอยด์เป็นสุนัขที่ให้ความรู้สึกทั้งเข้มแข็งและอ่อนหวานในเวลาเดียวกัน

เชื่อกันว่าในบรรพบุรุษสายพันธุ์ของพวกเขามีเลือดผสมของหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอกอยู่ด้วย และยังสืบเชื้อสายจากเหล่าสุนัขพันธุ์สปิทซ์หรือกลุ่มสุนัขเหนือ โดยจุดเด่นสำคัญของพวกเขาคือตรงรอยหยักบริเวณมุมปากจะมีลักษณะเหมือนรอยยิ้ม ทำให้สุนัขพันธุ์นี้เหมือนทำหน้ายิ้มตลอดเวลา

ท่ามกลางความหนาวเย็นที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ น้ำแข็งในแถบดินแดนไซบีเรียหรือที่เรียกกันว่า ดินแดนหลับไหล ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาคนเร่ร่อนที่มาจากเอเชียกลางและเป็นที่อยู่อาศัยของกวางเรนเดียร์ ซึ่งซามอยด์ทำหน้าที่เป็นนักล่าคอยล่ากวางเรนเดียร์เหล่านี้ให้กับชาวซามอยด์ของไซบีเรีย รวมไปถึงสุนัขพันธุ์นี้ยังถูกใช้ในการลากเลื่อนอีกด้วย

ในทุกปีซามอยด์จะผลัดขนออกมาเรียกกันว่า blowing coat เพียงแค่ใช้นิ้วสาง ขนก็จะออกมาได้อย่างง่ายดายแล้วนำไปปั่นหรือฟอก เส้นใยที่ได้จากเจ้าซามอยด์จะอบอุ่นมากกว่าขนแกะถึง 80% มนุษย์จึงนิยมนำมาทำเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ขนของซามอยด์จะไม่มีกลิ่นเหมือนสายพันธุ์อื่น และไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ขนสัตว์อีกด้วย

ชาวซามอยด์รักสุนัขซามอยด์และดูแลเหมือนสมากชิกในครอบครัวของเขา ให้อาศัยอยู่รวมในเต็นท์โนแมด เพื่อมอบความอบอุ่นให้แก่คนในเต็นท์ เพราะขนที่หนารวมถึงอุณหภูมิร่างกายที่อบอุ่นของซามอยด์จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นได้ ซามอยด์จึงผูกพัน เข้าใจ และเป็นมิตรกับมนุษย์มาก เพราะจะใช้เวลาแทบทั้งหมดอยู่เคียงข้างกับมนุษย์ และนั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ฉลาด อ่อนโยน และต้องการความรักความเอาใจใส่เป็นพิเศษ

ในศตวรรษที่ 19 สุนัขพันธุ์นี้ได้อพยพออกมากับชาวไซบีเรีย ในการเดินทางจากขั้วโลกไปยังแอนตาร์กติก นอกจากสุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขใจกล้า อดทนต่อการลากเลื่อนและงานหนักอื่นๆ แล้ว พวกมันยังทนต่อความหนาวเย็นได้ดีมาก ซึ่งเคล็ดลับอยู่ที่หางของซามอยด์ โดยพวกเขาจะกระดิกหางอย่างรุนแรงเพื่อให้เกิดความอบอุ่นขึ้น เมื่อถึงเวลานอนก็จะนอนเอาจมูกซุกหางของตัวเอง การทำเช่นนี้ทำให้อากาศที่หายใจเข้าไปอุ่นขึ้น ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้พวกมันเป็นโรคปอดบวมนั่นเอง

ในปี ค.ศ.1909 ได้มีการจัดตั้งสมาคมซามอยด์ เป็นแห่งแรกที่ประเทศอังกฤษ โดยครอบครัว Kilburn-Scotts และเริ่มเป็นที่นิยมในประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี ค.ศ.1880 Earnest Kilburn-Scott ได้นำลูกสุนัขพันธุ์นี้กลับมาให้เป็นของขวัญแก่ภรรยาของเขา

ความผูกพันที่มีให้กันระหว่างซามอยด์และมนุษย์ ยังคงแน้นแฟ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงไม่แปลกที่ซามอยด์มีนิสัยค่อนข้างอ่อนโยน

เพราะความผูกพันที่มีต่อมนุษย์ได้เป็นส่วนหนึ่งในสายเลือดของสุนัขสายพันธุ์นี้ไปแล้ว