“ฉันยังรอคอยปาฏิหาริย์ เชื่อว่าวันหนึ่งจะมาถึง…”
เชื่อว่าหลายคนคงเคยฟังผลงานบทเพลงสบายๆ ในน้ำเสียงหวานๆ ของคุณลุลา-กันยารัตน์ ติยะพรไชย กันมาพอสมควรแล้ว แต่รู้ไหมว่านอกจากเพลงเพราะๆ ที่ทุกคนรู้จักและร้องตามได้ทั้งเพลงอย่าง รักปาฎิหาริย์ ความหวาน หรือตุ๊กตาหน้ารถแล้ว ในครั้งนี้เธอยังมาพร้อมกับหนุ่มน้อยที่มีชื่อว่า Too-Ticky น้องแมวสุดน่ารัก สายพันธุ์ British Shorthair ที่เธอกำลังเลี้ยงอยู่อีกด้วย
ทันทีที่พวกเราเปิดประตูเข้ามา นอกจากการตกแต่งห้องสไตล์วินเทจที่ดูเก๋สะดุดตาแล้ว ก็มีน้อง Too-Ticky หรือชื่อเล่นว่าพี่ทิก เดินมาทักทายพวกเราทันที คุณลุลาเริ่มเล่าให้เราฟังว่าจริงๆ แล้วตั้งแต่เด็กเธอเลี้ยงสุนัขมาตลอด และไม่ค่อยชอบแมวเท่าไหร่เพราะคิดว่าแมวมักจะดุ แต่เมื่อทำงานได้ซักพักก็รู้สึกว่าทุกครั้งที่กลับบ้านมามีแต่ความเงียบเหงา เลยคิดว่าอยากเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อนกัน พอไปสอบถามเพื่อนนักดนตรีก็มีแต่คนแนะนำให้ลองเลี้ยงแมวจนเธอชักเริ่มสนใจ
“หลังตัดสินใจว่าจะลองเลี้ยงแมว ก็มาหาข้อมูลจนถูกใจแมวสายพันธุ์ British Shorthair เพราะเราชอบแมวหน้ากลมๆ” คุณลุลาหัวเราะ “พอไปคุยกับพี่เจ้าของฟาร์มท่านหนึ่ง บังเอิญว่าคุยกันถูกคอ เขาเลยเอาน้องออกมาให้เราดู เพราะตอนแรกพี่เขาหวงมาก พอเราเห็นเค้าก็รู้เลยว่านี่แหละคือแมวที่เราตามหามาตลอด”
คุณลุลาเชื่อว่าการที่เธอได้เจอกับพี่ทิกนั้นเป็นโชคชะตา และยังบอกอีกด้วยว่าจริงๆ แล้วคนไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกแมวหรอก แต่แมวเป็นฝ่ายเลือกเราต่างหาก เพราะในวันนั้นมีน้องแมวที่อยู่ในฟาร์มหลายสิบตัวกำลังเล่นกันอยู่ในบ้าน แต่มีแค่พี่ทิกตัวเดียวที่เดินมาหาและมาเล่นด้วยกันกับเธอ
“เรารู้สึกว่าทุกอย่างถูกกำหนดให้เราเจอกับแมวตัวนี้เท่านั้น บางทีอาจเป็นเพราะพี่ทิกเลือกเราไว้ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้นะ”ศิลปินสาวยิ้มอย่างอารมณ์ดี “ที่สำคัญคือหลังจากได้เจอกับพี่ทิกแล้ว ไม่ว่าจะเจอน้องแมวน่ารักแค่ไหน ก็ไม่เคยรู้สึกว่าอยากมีแมวเพิ่มเลย เหมือนเราถูกลิขิตมาเพื่อให้อยู่ด้วยกันกับเค้าจริงๆ”
ชื่อ Too-Ticky มีที่มาจากตัวละครโปรดของคุณลุลาในเรื่อง มูมิน โดยพี่ทิกมีนิสัยชอบทำอะไรตลกๆ ให้คุณเจ้าของได้หัวเราะอยู่เสมอ โดยเฉพาะท่านอนแบบซุปเปอร์แมน (เอามือชูมาข้างหน้าข้างนึง สองขาหลังแบะออก) ที่เธอแอบถ่ายรูปเก็บไว้เสมอ
นอกจากนี้ศิลปินสาวยังแอบเมาท์พี่ทิกให้เราฟังอีกว่า พี่ทิกเป็นแมวที่ตะกละมาก ถ้าอยากกินอะไรก็จะพยายามเดินมากินให้ได้ ต่อให้เธอดันเค้าออกไปแค่ไหนก็ตาม ซึ่งของโปรดของพี่ทิกที่ไม่เคยพลาดเลยก็คืออาหารเปียกแมวนั่นเอง
“เค้าจะรู้สึกแฮปปี้เป็นพิเศษกับการได้กินอาหารเปียกมาก พอมีความสุขก็จะทำท่านอนหงาย ทำตาแป๋วๆ ใส่เรา บางทีก็เอาตัวมาถูเหมือนกับบอกรักเรา หลังจากนั้นไม่ว่าเวลาเราทำอะไรเค้าจะคอยมาอยู่ใกล้ๆ เราเสมอ เราเย็บผ้า เค้าก็จะมา พอเราย้ายที่ไปดูทีวีที่โซฟา เค้าก็เดินมากระโดดขึ้นตักเรา เราว่าสิ่งเหล่านี้คือความอบอุ่นนะ อาจเรียกว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขก็ได้”
ด้วยโมเมนต์น่ารักชวนอมยิ้มเหล่านี้เอง ทำให้หลังจาก Too-Ticky หรือพี่ทิก ได้เข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว คุณลุลาก็รู้สึกว่าบ้านมีชีวิตชีวามากขึ้น ทำให้อยากรีบกลับบ้าน เพราะว่าพี่ทิกจะมาต้อนรับเธอที่หน้าประตูอยู่เสมอหรือไม่บางทีก็นอนหงายท้องโชว์พุงเหมือนกับอยากมาอ้อน ซึ่งเธอกล่าวอย่างภูมิใจว่านี่คือการเติมเต็มอะไรบางอย่างในชีวิตที่มีแต่คนเลี้ยงแมวเท่านั้นจะเข้าใจ
“เราว่ามันเป็นสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น รู้สึกเหมือนมีใครซักคนที่กำลังรอเราอยู่ มีเรื่องราว มีปฏิสัมพันธ์กัน ได้ทำกิจกรรมด้วยกันตอนยามว่าง พอทุกวันเป็นแบบนี้ก็เลยทำให้เวลากลับบ้านมาเราก็ไม่รู้สึกเงียบเหงาเหมือนเดิมแล้ว”ศิลปินสาวเล่าพร้อมเผยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ยิ่งบางวันกลับบ้านมาแล้วรู้สึกแย่หรือร้องไห้ เค้าจะมาอยู่กับเราเยอะเป็นพิเศษ เอาตัวมาถู มาคลอเคลีย เหมือนกับมาปลอบใจเรา ให้กำลังใจเรา แค่นั้นเราก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว”
ตั้งแต่ที่คุณลุลาได้อยู่กับพี่ทิกมาถึงตอนนี้ก็ประมาณหนึ่งปีครึ่งแล้ว เธอบอกอย่างมั่นใจว่านอกจากจะรู้สึกชีวิตสดใส มีความสุข อารมณ์ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากแล้ว ตอนนี้เธอยังรู้สึกว่าพี่ทิกเป็นเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอไปแล้วด้วย
“มันอบอุ่นหัวใจทุกครั้งเลยนะที่เรียกชื่อเค้า แล้วเค้าจะมาหาตลอด เวลาพาออกไปข้างนอก ท่ามกลางเสียงคนมากมาย แต่เค้าจะจำเสียงของเราได้ทันที นี่สิ่งที่เราประทับใจในตัวเค้ามาก เพราะเหมือนกับว่าเราเป็นคนพิเศษของกันและกันเลย”
ในโลกที่มีผู้คนมากมาย บางทีเราอาจแค่ต้องการใครซักคนได้อยู่ใกล้ๆ ที่เข้าใจและใช้ช่วงเวลาที่อบอุ่นด้วยกัน เหมือนกับคุณลุลาและพี่ทิกที่ต่างฝ่ายต่างได้เติมเต็มกันและกัน จนเราแน่ใจว่าเรื่องราวระหว่างทั้งสองนั้น ถ้ามีคำใดแทนได้
ก็คงเป็นคำว่า “ความรัก” อย่างแน่นอน
