สำหรับลูกหมาน้อยแล้ว เขาคือโลกทั้งใบของมัน
มันอาจไม่รู้จักบ้านหลังใหญ่สวยๆ อาหารอร่อยๆ ที่กินเต็มอิ่มทุกมื้อ ไม่ได้มีของเล่นสนุกๆ แบบที่เคยเห็นสุนัขตัวอื่นมี แต่มันคิดว่าช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเจ้านายของมันคือความสุขแล้ว
เขามักพาลูกหมาตัวน้อยออกเดินไปตามที่ต่างๆ เปลี่ยนที่พักในแต่ละวัน บางครั้งอาจเป็นริมถนน บางทีก็เป็นในบ้านร้าง แล้วแต่โอกาสจะอำนวย ส่วนอาหารที่พอจะหาได้เขาก็แบ่งกันกินกับมันคนละครึ่ง
เมื่อฝนตกพวกเขาก็หลบอยู่ใต้สะพานกลับรถ ทั้งมันและเจ้านายต่างนั่งนิ่งๆ มองสายฝนที่ตกลงกระทบพื้นอย่างยาวนานราวกับว่าไม่มีที่สิ้นสุด
ลูกหมาน้อยเคยได้ยินคนพูดกันว่าเจ้านายของมันเคยเป็นคนธรรมดามาก่อน แต่แล้วก็ถูกพิษเศรษฐกิจเล่นงานเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน ทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว ครอบครัวแตกแยก จนกลายมาเป็นคนเร่ร่อนไร้หลักแหล่ง
มันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องยากๆ แบบนั้นเสียเท่าไหร่ รู้เพียงแค่ว่าการได้อยู่กับเจ้านายคนนี้คือสิ่งที่มันมีความสุขที่สุดแล้ว
แม้ว่าจะไม่สบายเสียมากนัก บางมื้อบางวันก็ต้องทนหิว แต่ถ้าได้อยู่กับเจ้านาย แค่นั้นมันก็พอใจ
โลกของมันอาจฟังดูคับแคบ แต่เราจะต้องการอะไรมากมายไปทำไมในเมื่อสิ่งที่เราต้องการและสามารถทำได้มีแค่ไม่กี่อย่าง
เขาชอบลูบหัวลูกหมาน้อยเบาๆ ราวกับปลอบโยน แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะดูไม่น่าไว้วางใจ ตัวเขาดูสกปรกมอมแมม หนวดเครารุงรังไม่ได้โกน แต่สัมผัสที่ลูกหมาน้อยรู้สึกได้กลับเป็นความอ่อนโยน
ลูกหมาน้อยไม่รู้ว่าเขาเจออะไรมาบ้างถึงต้องกลายมาเป็นคนชายขอบของสังคมที่ไม่มีใครเหลียวแล
แต่มันรู้ว่าเขารักมันมากกว่าใครทั้งหมดบนโลกนี้ เพราะในวันที่มันถูกทอดทิ้งอยู่ในกองขยะที่ทั้งหิวและหนาว มีเพียงมือสกปรกของเขาเท่านั้นที่ยื่นมาช่วยเหลือ
ตัวลูกหมาน้อยเองก็รักชายคนนี้มากกว่าสิ่งใดในโลกเช่นกัน
“ไปกันเถอะ” หลังจากที่พวกเขานั่งพักกันอยู่นานใต้สะพานแห่งหนึ่ง เขาก็ลุกยืนขึ้น ตะวันใกล้จะตกดินแล้ว เขาคงจะพาลูกหมาน้อยเดินไปหาที่พักสำหรับคืนนี้ ถ้าโชคดีอาจจะเจอบ้านร้างซักหลัง หรือไม่ก็ป้ายรถเมล์ซักที่
ลูกหมาน้อยกระดิกหางตอบรับด้วยความยินดี
ก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะค่อยๆ เดินหายไปในโลกอาทิตย์อัสดง