คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่เราได้พบกันอีกครั้ง
ในเหตุการณ์ที่เกินคาดคิด ไม่ว่าจะภัยธรรมชาติ อุบัติภัยจากการก่อการร้าย หรือการหายตัวไปในดินแดนรกร้าง นี่คือเวลาแห่งการปฏิบัติการของเหล่า Search and Rescue Dog หรือที่รู้จักกันในชื่อสุนัขกู้ภัย
สุนัขกู้ภัยนั้นเป็นสุนัขที่มีความเชี่ยวชาญในการค้นหามนุษย์ จมูกของพวกเขาถูกฝึกมาให้ไวต่อการดมกลิ่นมนุษย์มาก ทำให้สามารถได้กลิ่นแม้ว่าคนๆ นั้นจะถูกฝังอยู่ใต้ซากตึก ใต้ดินถล่ม หรือแม้กระทั่งใต้น้ำ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสุนัขกู้ภัยหนึ่งตัวสามารถทำงานได้เทียบเท่าคน 20-30 คนเลยทีเดียว ในปัจจุบันเหล่าสุนัขกู้ภัยถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามหน้าที่ที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยหลักๆ แล้วสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภทดังนี้
Tracking : เป็นสุนัขกู้ภัยที่เน้นดมเพื่อตามกลิ่นไปหาเป้าหมาย มักใช้ในกรณีที่มีคนหายตัวไปแล้วมีร่องรอยสุดท้ายเหลือทิ้งไว้ ดังนั้นการปฏิบัติการแบบนี้ต้องแข่งกับเวลา เพราะยิ่งทิ้งนานกลิ่นที่เป็นเบาะแสจะยิ่งจางลง
Air Scent : เป็นสุนัขกู้ภัยที่เน้นดมกลิ่นเพื่อค้นหามนุษย์ในบริเวณใกล้เคียง เป็นการดมกลิ่นจากในอากาศเพื่อค้นหาเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงไม่ต้องใช้เบาะแสจากจุดสุดท้ายที่เห็น ส่วนใหญ่มักใช้ค้นหานักปีนเขาที่หายตัวไปในป่า หรือคนที่ถูกฝังในหิมะ
Cadaver : เป็นสุนัขกู้ภัยที่เน้นดมกลิ่นเพื่อค้นหาศพ หรืออวัยวะมนุษย์ สามารถค้นหาได้แม้กระทั่งเศษฟัน หรือหยดเลือดเพียงหยดเดียว
Water : เป็นสุนัขกู้ภัยที่ถูกฝึกมาเพื่อช่วยเหลือและค้นหาคนจมน้ำโดยเฉพาะ สุนัขกู้ภัยประเภทนี้สามารถค้นหาคนได้ทั้งแบบจมอยู่ใต้น้ำทั้งตัวหรือลอยอยู่เหนือน้ำ รวมไปถึงสามารถชี้ตำแหน่งได้อีกด้วย
Urban Disaster : เป็นสุนัขกู้ภัยที่เสี่ยงมากที่สุด เพราะเน้นช่วยชีวิตคนที่อยู่ใต้ซากตึก เป็นสุนัขที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง และสามารถประเมินความเสี่ยงพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยได้
Wilderness : สุนัขกู้ภัยที่เน้นค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่รกร้างขนาดใหญ่ เช่น ในป่า หรือทุ่งหญ้าที่ห่างไกล
Avalanche : เป็นสุนัขกู้ภัยที่เน้นช่วยเหลือมนุษย์จากภัยธรรมชาติ มีความชำนาญด้านการค้นหามนุษย์ที่ติดอยู่ในภัยดินถล่มหรือมีอะไรกลบทับ เช่น หิมะ
Evidence : เป็นสุนัขกู้ภัยที่ถูกฝึกมาเพื่อหาหลักฐานที่มีกลิ่นมนุษย์ติดอยู่ เช่น เสื้อผ้า เพื่อใช้หาร่องรอยคนที่สูญหายหรือคนร้าย
ด้วยการทำงานที่ต้องใช้ทักษะและความสามารถเฉพาะตัวสูง ทำให้ปัจจุบันการฝึกสุนัขกู้ภัยส่วนใหญ่จะใช้สุนัขแค่ 3 สายพันธุ์ คือ German Shepherd, Doberman และ Blood Hound เท่านั้น โดยการฝึกสุนัขกู้ภัยจะเน้นความแข็งแรงและความว่องไว โดยครูฝึกจะฝึกขว้างบอลแล้วให้สุนัขวิ่งคาบกลับมาในภูมิประเทศต่างๆ เช่น หิมะหนา พื้นทราย หรือภูเขา
สุนัขกู้ภัยแต่ละตัวจะใช้ชีวิตอยู่กับครูฝึกตลอดเวลา โดยใช้เวลาฝึกประมาณ 600 ชม. ก็สามารถเริ่มออกปฏิบัติการได้ สิ่งสำคัญคือผู้บังคับสุนัขที่ออกปฏิบัติการร่วมกันต้องสามารถควบคุมสุนัขได้ตลอดเวลาและทุกสถานการณ์ เพราะทุกรายละเอียดอาจหมายถึงชีวิตได้เมื่ออยู่ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ โดยสุนัขกู้ภัยแต่ละตัวจะอยู่คู่กับผู้บังคับตลอดเวลาแม้แต่ในวันหยุดเพื่อให้พร้อมออกทำงานแม้ในเวลาที่ไม่คาดคิด
และเป็นการยืนยันว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็จะไม่มีทางหยุดค้นหา….จนกว่าทุกคนจะปลอดภัย