ทำไมปัญหาเห็บหมัดบนตัวสุนัขของเราถึงไม่หมดไปเสียที
ในการดูแลลูกสุนัขและสุนัขทุกช่วงวัย นอกจากเราต้องใส่ใจเรื่องโภชนาการเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการที่ดี หรือเรื่องการฉีดวัคซีนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว อีกหนึ่งภัยร้ายน่ากลัวที่ลูกสุนัขไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ก็คือ พวกปรสิตภายนอก ทั้งเห็บและหมัด ที่จ้องจะคอยดูดเลือดและแพร่โรคร้ายแรงต่างๆ เข้าสู่ร่างกายน้องหมา ทั้งโรคพยาธิเม็ดเลือด โรคโลหิตจาง โรคแพ้น้ำลายหมัด เป็นต้น ซึ่งความน่ากังวลอยู่ตรงที่ว่า…ปัญหาเห็บหมัด ไม่สามารถป้องกันได้เพียงแค่การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันบนตัวสุนัขเท่านั้น แต่เราต้องทำให้ครบ 3 อย่างนี้ น้องหมาจึงจะปลอดภัยจากวายร้ายดูดเลือดได้อย่างแท้จริง
1. ปกป้องที่ตัวสุนัข : โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเห็บหมัดที่สัตวแพทย์แนะนำ มีฉลากถูกต้อง ปลอดภัย หรือถ้าให้ดี อาจเลือกสวมปลอกคอชนิดที่สามารถปกป้องไม่ให้เห็บกัดได้ตั้งแต่แรก
2. ปกป้องสัตว์เลี้ยงทุกตัวในบ้าน : เห็บหมัดจะเลือกไปอยู่กับน้องหมาตัวที่ไม่ได้รับการป้องกัน ดังนั้น เราจึงห้ามเปิดโอกาสให้พวกมันโดยเด็ดขาด ดังนั้นการปกป้องน้องหมาน้องแมวทุกตัวในบ้านให้ครอบคลุมเหมือนกันหมดจึงเป็นเรื่องสำคัญ
3. ปกป้องบริเวณรอบบ้าน ให้ปราศจากรังเห็บ : หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าวงจรชีวิตของเห็บนั้น พวกมันไม่ได้เกาะอยู่บนตัวสุนัขตลอดเวลา แต่มันจะไต่ขึ้นมาแค่เฉพาะเวลาต้องการดูดเลือดเท่านั้น ส่วนวงจรที่เหลือพวกมันมักอาศัยอยู่ตามพื้น ผนัง เพดาน ซอกมุมโซฟา หรือแม้แต่ในสนามหญ้าหน้าบ้าน ขอแค่ความชื้นพอเหมาะ พวกมันก็พร้อมจะวางไข่ออกลูกหลานมาอีกนับเป็นพันๆ ฟอง
นั่นแปลว่า ถ้าเราไม่จัดการพวกที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมด้วยแล้ว น้องหมาก็จะมีโอกาสติดเห็บกลับมาอยู่เรื่อยๆ
วิธีการง่ายๆ ที่จะทำให้เราสามารถกำจัดเห็บหมัดที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมได้ ก็คือใช้ น้ำยาไบติคอลปริมาณ 1 ซีซี ผสมกับน้ำ 1.5 ลิตร แล้วเทราด หรือ ฉีดพ่นบริเวณพื้นที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงแล้วปล่อยให้แห้ง (ในอัตราส่วน น้ำที่ผสมน้ำยาแล้ว 1.5 ลิตรต่อพื้นที่ 2 ตารางเมตร)
โดยตัวยาสามารถออกฤทธิ์กำจัดเห็บหมัดที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม และช่วยตัดวงจรชีวิตของเห็บหมัดให้หมดไป แถมยังไม่เป็นอันตรายต่อสุนัขและทุกคนในบ้านอีกด้วย
เพียงแค่ปราการ 3 อย่างนี้ ก็จะเป็นเกราะป้องกันชั้นดีให้น้องหมาของพวกเรา ไม่มีมีปัญหาเห็บหมัดมากวนใจอีกต่อไป