เสียงข้อความเข้าบนแอพพลิเคชั่นสนทนาดังขึ้น หน้าจอโทรศัพท์ของเธอสว่างวาบ เธอรีบคว้ามันจากข้างตัวขึ้นมาดูทันที หน้าจอแสดงข้อความโฆษณาอีกแล้ว ทั้งที่เธอหวังเหลือเกินว่าจะเป็นข้อความของเขา…
ฝนยังคงกระหน่ำและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ตึกรามบ้านช่องที่เธอมองเห็นผ่านหน้าต่างนั้นพร่ามัวไปเสียหมด เธอเอนหลังกลับเข้าที่ ซีรีส์ในทีวียังคงเล่นต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ใส่ใจว่าจะมีใครดู เธอโยนมือถือกลับไปไว้ข้างลำตัว วันนี้เองก็เข้าวันที่ห้าแล้วนับจากข้อความสุดท้ายที่เขาส่งมา
เธออ่านมันทุกวันซ้ำไปมาราวหนึ่งร้อยรอบ แต่ไม่ได้มีวี่แววว่าจะจะส่งอะไรโต้ตอบกลับไป ช่องว่างขนาดใหญ่ทะลวงอยู่กลางอก ความว่างเปล่านี้ทำให้เธอทำงานทำการแทบไม่ไหว ไม่อาจพูดจากับใคร และเมื่อร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาจนถึงวันที่ห้า น้ำตาของเธอก็หยุดไหล บางทีในตอนนี้ความตื่นเต้น ระทึกขวัญ หรือชวนเสียน้ำตาในบรรดาซีรีส์ที่เธอเปิดดูก็ไม่อาจทำให้เธอรู้สึกอะไรได้อีกแล้ว ราวกับเธอเปิดมันดูเพื่อข้ามเวลาเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ
ฝนยังคงกระหน่ำและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แสงไฟในห้องส่งแสงสลัว เธอเดินเข้าไปในห้องครัวแล้วเปิดไฟ พื้นครัวมีรอยเลือดจ้ำเล็กๆ เป็นทาง เธอเคลื่อนสายตาไปยังตะกร้าหวาย ที่นอนของจีจี้ เจ้าแมวดำสัตว์เลี้ยงของเธอกับลูกอ่อน ผ้าสักหลาดสีขาวรองตะกร้าตอนนี้กลายเป็นจ้ำสีแดงก่ำดวงใหญ่ ลูกแมวทั้งสี่ที่จีจี้คลอดออกมาเหลือเพียงสามตัว…
หัวใจเธอเต้นแรงระส่ำ ขาสองข้างอ่อนแรงจนลงมากองกับพื้น จีจี้กินลูกของมันเอง ซากลูกแมวหนึ่งตัวที่ผอมกะหร่องเหลือไม่ครบ คราบเลือดยังคงเลอะตามไรหนวดและใบหน้าของมัน ช่องว่างกลางหน้าอกของเธอแผ่กว้างขึ้นอีกแล้ว เธอแหลกสลายจนอยากจะร้องไห้ เว้นแต่ว่าเธอร้องมามากพอจนไม่อาจจะร้องได้อีกแล้ว เธอคว้าจีจี้มากอดเอาไว้แน่น เสียงสะอื้นเล็ดออกมาจากลำคอ จีจี้ยังคงไม่รู้ร้อนหนาว มันเลียใบหน้าของเธอดังเช่นเพื่อนสนิทเหมือนทุกวัน
เธออุ้มจีจี้ออกมาที่โซฟาข้างนอก ก่อนจะกลับไปเปลี่ยนผ้าปูเก็บกวาดซากลูกแมวที่เหลือ เวลานี้เธออ่อนแอ แต่เธออาจจะต้องเข้มแข็งเพื่ออีกหลาย ๆ ชีวิต เธอเดินกลับมาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู และทิ้งตัวลงบนโซฟาจีจี้ยังคงคลอเคลียที่ขาไปมา ไม่มีข้อความใหม่ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจ
“แกเป็นปีศาจเหรอ” เธอเหลือบมองไปที่เจ้าแมวสาว ในมือยังเลื่อนหาเรื่องที่เธอเพิ่งเจอในกูเกิ้ล “แกอ่อนแอเหรอ ฉันคงดูแลแกไม่ดีใช่ไหม แกถึงต้องกินลูกตัวเอง” เธอก้มลงไปเกาคางมัน “หรือแกไม่อยากให้ลูกของแกที่ไม่แข็งแรงต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ แบบนี้” เจ้าแมวทำตาพริ้มส่งเสียงหงิง เธอวางมือถือและหยิบทิชชู่มาเช็ดใบหน้าของจีจี้
“บางคนบอกให้เอาแกไปทิ้ง แกมันเป็นแมวอัปมงคล แต่ฉันจะทำแบบนั้นลงได้ยังไงนะในช่วงเวลาแบบนี้”
เสียงข้อความดังขึ้นอีกแล้ว เธอกดปิดไฟบนหน้าจอทันที ไม่ว่ารอบนี้จะเป็นข้อความจากใคร ดูเหมือนว่ามันจะไม่สำคัญอีก
“ทุกคนก็ต้องมีวิธีผ่านเรื่องแย่ๆ ในแบบของตัวเองทั้งนั้นใช่ไหม ทั้งแกทั้งฉัน”
เธออุ้มจีจี้แยกไปไว้ในห้องนอน พลางคิดว่าวันนี้คงต้องพักผ่อนแล้ว พรุ่งนี้ค่อยคิดว่าจะดูแลลูกแมวตัวที่เหลืออย่างไรเสียงข้อความยังคงส่งเสียงดังต่อเนื่องอีกสามสี่ครั้งบนโซฟา แต่เธอไม่ได้ยินมันแล้ว
ฝนยังคงกระหน่ำและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด และซีรีส์ในทีวียังคงเล่นต่อไปเรื่อยๆ