สมัน (เนื้อสมัน) ชาวบ้านมักเรียกว่า กวางเขาสุ่ม เนื่องจากตัวผู้จะมีเขาโค้ง ตีเป็นวงกว้าง แตกกิ่งก้านสาขามากมาย เหมือนสุ่มหงาย จุดนี้เองที่ทำให้สมันได้รับการยกย่องให้เป็นกวางที่มีเขาสวยที่สุดในโลก
เขาสมันที่สวยที่สุดมีการแตกกิ่งมากถึง 33 กิ่ง และแน่นอนว่าธรรมชาติมักจะสร้างสัตว์ตัวผู้ให้มีความสวยงามมากกว่าสัตว์ตัวเมียเสมอ สมันตัวเมียก็เช่นกัน พวกมันไม่มีเขาและมีลักษณะคล้ายละมั่งมาก สมัยก่อนจึงมีความเชื่อว่าสมันมีแค่ตัวผู้เท่านั้น
สมันถือเป็นกวางสัญชาติไทยโดยแท้จริง เพราะพบแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ไม่พบที่ไหนอีกเลยในโลก แต่ปัจจุบันสมันจัดว่าเป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว สาเหตุก็เพราะเขาสวยงามที่แตกกิ่งมากมาย จึงทำให้สมันไม่สามารถอาศัยอยู่ในป่ารกทึบได้เพราะเขาอาจไปเกี่ยวกับเถาวัลย์หรือกิ่งไม้ ด้วยเหตุนี้จึงเลี่ยงไม่ได้ที่พวกมันจะตกเป็นเป้าในการล่าของเหล่านายพราน มิหนำซ้ำหากเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก สมันยังต้องอพยพจากที่ราบลุ่มแม่น้ำขึ้นไปอาศัยอยู่บนที่ดอน ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้พวกมันถูกนายพรานล่าง่ายขึ้นไปอีก
นอกจากการถูกล่าแล้ว ในปี พ.ศ. 2475 ยังเป็นช่วงที่ประเทศไทยทำสนธิสัญญาเบาว์ริงเปิดการค้าขายกับต่างประเทศ ทำให้ข้าวไทยกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ พื้นที่ทุ่งหญ้าธรรมชาติแถบนั้น ที่แต่เดิมเป็นที่อยู่ของเหล่าสมัน ก็ถูกชาวบ้านบุกรุกแผ้วถางกลายมาเป็นพื้นที่ไร่นาในที่สุด จนในปีเดียวกันนั้นได้มีบันทึกว่า สมันในธรรมชาติถูกยิงตายที่จังหวัดกาญจนบุรี และต่อมาไม่นานในปี พ.ศ. 2481 สมันตัวสุดท้ายที่เลี้ยงในจังหวัดสมุทรสาครก็ถูกคนขี้เมาตีจนตาย สมันจึงนับว่าสูญพันธุ์ไปตั้งแต่เหตุการณ์นั้น
ถึงแม้เราจะกล่าวว่าสมันเป็นกวางสัญชาติไทย แต่น่าเสียดายที่แม้แต่ภาพถ่ายของสมันตัวเป็นๆ ก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย ภาพถ่ายสมันชุดเดียวที่เหลืออยู่บนโลกกลับเป็นภาพของสมันไทยในสวนสัตว์เบอร์ลินแทน นอกจากนี้ซากของสมันที่ถูกสตัฟฟ์เอาไว้ก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยอีกเช่นกัน แต่อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติ ในกรุงปารีส
สิ่งที่ประเทศไทยเราเหลืออยู่ตอนนี้ เห็นจะมีก็แต่ภาพวาดและเขาของสมัน อันเป็นสมบัติที่พบได้ตามพิพิธภัณฑ์และกรุสมบัติส่วนตัวของนักสะสมทั่วโลกเท่านั้น