น้องหมาของเรากำลังจะได้เป็นคุณแม่แล้ว !
คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าการที่เรารู้ว่าสุนัขของเราตั้งท้องแล้ว แต่นั่นก็คงเป็นช่วงเวลาที่น่ากังวลใจไปพร้อมๆกัน โดยเฉพาะเหล่าเจ้าของสุนัขมือใหม่ที่เพิ่งเคยเลี้ยงสุนัขเป็นครั้งแรก เพราะการจัดการสุนัขตั้งท้องและการดูแลลูกสุนัขมีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจมากมาย
คราวนี้เราเลยขอมาแนะนำมือใหม่ทุกท่านให้ได้ทราบถึงวิธีการดูแลสุนัขช่วงตั้งท้องและหลังคลอดอย่างถูกต้องโดยเฉพาะเรื่องสารอาหารซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ทั้งแม่สุนัขและลูกสุนัขมีสุขภาพที่แข็งแรง
เอาล่ะ…ถ้าพร้อมแล้วเราก็มาเริ่มต้นกันเลย
.
.
โดยปกติแล้วสุนัขจะตั้งท้องประมาณ 9 สัปดาห์ ในช่วงนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของอาหาร เพราะสุนัขของเราต้องการสารอาหารที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับพัฒนาการและการเติบโตของลูกน้อยในท้อง ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนอาหารเป็นสูตรสำหรับสุนัขตั้งท้องโดยเฉพาะหรือสูตร “แม่และลูกสุนัข” เพราะอาหารสุนัขสูตรปกติอาจจะมีสารอาหารที่ไม่เพียงพอ โดยเทคนิคการจัดการดูแลเรื่องอาหารสำหรับสุนัขตั้งท้องมีดังนี้
– สุนัขตั้งท้องต้องการอาหารที่มีปริมาณโปรตีนสูง : แม่สุนัขจำเป็นต้องได้รับอาหารที่มีโปรตีนสูงเพื่อนำไปเสริมสร้างการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกน้อยในท้อง รวมไปถึงควรเป็นอาหารที่ย่อยง่าย และมีสารอาหารอื่นๆ ในปริมาณครบถ้วนสมดุล
– เพิ่มปริมาณอาหารในช่วงสัปดาห์ที่ 5-6 : ในช่วงสัปดาห์ที่ 5-6 ของการตั้งท้อง ลูกน้อยในท้องสุนัขจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงควรเพิ่มปริมาณอาหารจากปริมาณปกติเป็น 1.25-1.5 เท่า เพื่อให้แม่และลูกน้อยในท้องได้รับปริมาณสารอาหารที่เพียงพอ
– เมื่อสุนัขท้องแก่อาจแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ กินวันละหลายครั้ง : ในช่วงสัปดาห์ที่ 8-9 ลูกในท้องจะมีขนาดตัวใหญ่ขึ้นอาจทำให้เบียดพื้นที่กระเพาะอาหาร ส่งผลให้แม่สุนัขกินได้น้อยลงต่อมื้อ ดังนั้นเพื่อให้แม่สุนัขได้รับสารอาหารที่เพียงพออาจจะเปลี่ยนจากการให้มื้อใหญ่วันละ 2-3 มื้อ มาเป็นมื้อย่อยๆ 5-6 มื้อตลอดทั้งวันแทน เพื่อให้แม่สุนัขสามารถกินได้มากขึ้น –
อาหารเป็นเรื่องสำคัญของสุนัขตั้งท้องที่ห้ามมองข้ามอย่างเด็ดขาด ถ้าแม่สุนัขได้รับสารอาหารไม่เพียงพอในช่วงนี้ อาจจะทำให้ลูกสุนัขที่คลอดออกมาไม่แข็งแรง ผิดปกติ หรืออาจจะเสียชีวิตหลังคลอดได้ ดังนั้นเพื่อให้แม่และลูกสุนัขของเราแข็งแรงอย่าลืมให้อาหารสูตร “แม่และลูกสุนัข” กันนะ
.
.
หลังคลอดแล้ว จะถึงช่วงเวลาที่ให้นมลูกสุนัข ปกติแล้วแม่สุนัขจะมีระยะเวลาให้นมประมาณ 8-9 สัปดาห์ ในช่วงนี้เป็นช่วงที่แม่สุนัขใช้พลังงานมากที่สุดเพราะต้องนำไปสร้างน้ำนม ดังนั้นจึงต้องให้อาหารในปริมาณที่เพียงพอและมีสารอาหารที่เหมาะสม โดยเฉพาะโปรตีนและไขมันเพราะเป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างน้ำนม ไม่เช่นนั้นแล้วแม่สุนัขอาจจะน้ำหนักลดลงรวดเร็ว รวมไปถึงอาจทำให้ไม่สามารถสร้างปริมาณน้ำนมได้อย่างเต็มที่
สำหรับแนวทางการดูแลแม่สุนัขช่วงให้นม มีดังต่อไปนี้
– เพิ่มปริมาณอาหารแม่สุนัขในช่วงสัปดาห์ที่ 2-5 : ช่วงให้นมประมาณสัปดาห์ที่ 2-5 ให้เพิ่มปริมาณอาหารขึ้น 2-3 เท่าของปริมาณที่ให้ก่อนตั้งท้อง รวมไปถึงเพิ่มจำนวนมื้ออาหารให้มากขึ้น เพราะช่วงนี้แม่สุนัขจะต้องใช้พลังงานในการสร้างน้ำนมแก่ลูกๆ มาก แต่เมื่อถึงสัปดาห์ที่ 6 เป็นต้นไปให้ค่อยๆ ปรับลดอาหารลงจนเหลือปริมาณปกติในสัปดาห์ที่ 9 จนเหลือให้อาหารสองมื้อต่อวัน เพราะช่วงนั้นแม่สุนัขจะเริ่มสร้างน้ำนมน้อยลงแล้ว
– ให้ลูกสุนัขกินนมแม่ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด : เมื่อลูกน้อยคลอดออกมาแล้วอย่าลืมให้ลูกสุนัขทุกตัวได้กินนมแม่ภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด เพราะช่วงนั้นนมแม่จะมีภูมิต้านทานอยู่ซึ่งจะถ่ายทอดมายังลูกน้อยได้ โดยลูกสุนัขจะยังไม่สามารถสร้างภูมิต้านทานเองได้ในช่วงแรก
– อย่าลืมเรื่องน้ำสะอาดสำหรับแม่สุนัข : นอกจากเรื่องสารอาหารที่ครบถ้วนแล้ว แม่สุนัขจำเป็นต้องได้รับน้ำสะอาดอย่างเพียงพอเพื่อผลิตน้ำนมด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วแม่สุนัขอาจเกิดภาวะขาดน้ำได้
– สูตรอาหารก่อนและหลังคลอด : อาจเป็นเรื่องลำบากหากต้องเปลี่ยนสูตรอาหารก่อนคลอดและหลังคลอด แต่ถ้าคุณใช้อาหารสูตร ”แม่และลูกสุนัข” จะสามารถใช้ได้สำหรับทั้งแม่สุนัขก่อนคลอดและหลังคลอดช่วยให้เจ้าของสามารถสต็อกอาหารตั้งแต่ช่วงสุนัขตั้งท้องเก็บไว้ใช้ได้ยาวๆ กันไปเลย
.
.
เมื่อลูกสุนัขเริ่มหย่านมแม่ ในช่วงนี้สิ่งสำคัญคือการให้ลูกสุนัขตัวน้อยของเราได้ค่อยๆ เรียนรู้การกินอาหารสุนัขแทนการกินนมแม่ โดยเราอาจจะเริ่มฝึกลูกสุนัขให้รู้จักกับอาหารสุนัขได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 3-4 สัปดาห์ เพราะบางทีสารอาหารจากน้ำนมแม่อย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกสุนัข การเสริมอาหารเม็ดจะช่วยให้ลูกสุนัขเติบโตได้แข็งแรงมากขึ้นและยังช่วยให้ลูกสุนัขฝึกกินอาหารเม็ดหลังหย่านมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
แนวทางการดูแลลูกสุนัขหลังหย่านมมีดังนี้
– เริ่มจากการนำอาหารเม็ดแช่น้ำอุ่น : เราสามารถให้ลูกสุนัขได้ลองชิมอาหารเม็ดได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 3-4 สัปดาห์ โดยในตอนแรกอาจใช้วิธีนำอาหารเม็ดมาแช่น้ำอุ่นเพื่อให้นิ่มและกินง่ายขึ้น หรือหลังแช่น้ำอาจจะนำไปปั่นเพื่อให้ลูกสุนัขกินง่ายยิ่งขึ้นอีกก็ได้ โดยเริ่มจากจำนวนทีละน้อย และค่อยๆ เพิ่มความถี่และปริมาณให้มากขึ้น
– เลือกอาหารเม็ดที่เหมาะสม : อาหารสูตร “แม่และลูกสุนัข” ของสมาร์ทฮาร์ทเป็นทางเลือกที่ดีทางเลือกหนึ่ง เนื่องจากเม็ดอาหารสามารถดูดซึมน้ำได้ดี นิ่ม ไม่เปื่อยยุ่ย เหมาะกับการฝึกให้ลูกสุนัขกินอาหารเม็ด อีกทั้งเม็ดอาหารยังมีขนาดเล็กเหมาะสมที่ 0.6 ซม. ทำให้ลูกสุนัขสามารถกินได้ง่าย ถ้าใช้อาหารเม็ดทั่วไปเมื่อแช่น้ำแล้วอาจจะเปื่อยยุ่ย ทำให้กินยากและอาจสร้างความเลอะเทอะ
– ไม่ควรให้นมวัวกับลูกสุนัข : ในนมวัวมีปริมาณแลคโตสที่สูง อาจทำให้ลูกสุนัขท้องเสียได้ ดังนั้นจึงไม่ควรให้นมวัวแก่ลูกสุนัข และไม่ควรใช้นมวัวแช่อาหารสุนัขด้วยเช่นกัน
– เสริมสร้างภูมิต้านทานด้วย GOS พรีไบโอติค : อย่าลืมเลือกอาหารสุนัขที่มีส่วนผสมของ GOS พรีไบโอติค ที่ช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียในทางเดินอาหาร และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติให้กับลูกสุนัข –
อาหารสูตร “แม่และลูกสุนัข” ของสมาร์ทฮาร์ท สามารถใช้ได้ตั้งแต่ช่วงแม่สุนัขตั้งท้อง ช่วงให้นมและสามารถให้ลูกสุนัขกินได้ด้วย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับเจ้าของสุนัขทุกท่านในช่วงนี้มาก เพราะสะดวก ไม่ต้องเปลี่ยนสูตรอาหารบ่อยๆ ถุงเดียวสามารถดูแลครบ 3 ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของแม่สุนัขและลูกน้อยกันไปเลย
