สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่มีอยู่ในตำนานและเรื่องเล่าทั้งในตะวันออกและตะวันตก รวมไปถึงอยู่ในนิทานและวรรณกรรมต่างๆ มากมาย แต่โดยภาพรวมแล้วสุนัขจิ้งจอกจะเกี่ยวพันกับความเชื่อเรื่องการแปลงกาย ความเจ้าเล่ห์แสนกล ซึ่งบางครั้งก็อาจจะโยงไปถึงลางร้ายและโชคไม่ดี
ในสมัยก่อนชาวอินคาเชื่อว่าสุนัชจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่ลี้ลับและหลอกลวง หากใครที่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้สุนัขจิ้งจอกมาล่าไก่ที่เลี้ยงไว้ได้ก็จะพบเจอกับโชคร้ายที่ตามมาในไม่ช้า ความเชื่อนี้ยังคงถูกสืบต่อมาจนถึงในปัจจุบัน ตามความเชื่อของชาวท้องถิ่นในแถบอเมริกาใต้ยังเชื่อว่าจิ้งจอกเป็นสัตว์ปิศาจที่สามารถนำพาโชคร้ายมาสู่มนุษย์ได้
ในอเมริกาเหนือ มีความเชื่อว่าถ้าเกิดใครเห็นสุนัขจิ้งจอกกำลังหันมองมาแล้วเห่าแสดงว่าอาจมีญาติหรือเพื่อนบ้านกำลังจะเสียชีวิต แล้วถ้ามีสุนัขจิ้งจอกมาหอนใกล้ๆ บ้านนั้นเป็นสัญญาณที่กำลังบอกว่าในบ้านหลังนั้นกำลังจะมีโรคร้ายติดคนในบ้าน
ส่วนความเชื่อทางฝั่งตะวันออก มีการเล่าถึงสุนัขจิ้งจอกที่ใฝ่ฝันอยากเป็นมนุษย์ จึงบำเพ็ญเพียรให้มีวิชาแก่กล้านับร้อยปี และนี่คือต้นกำเนิดของตำนานจิ้งจอก 9 หางนั่นเอง จิ้งจอกเก้าหางมีตำนานหลากหลายและเกี่ยวพันกับมนุษย์มาก บางครั้งก็เป็นผู้ช่วยเหลือมนุษย์จากภัยพิบัติ บางครั้งก็อาจจะค้นหาความรัก หรือบางครั้งก็หลอกลวงมนุษย์ได้เหมือนกัน
ในโลกความเป็นจริง สุนัขจิ้งจอกเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศน์เพราะเป็นทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่าด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดีด้วยความที่เหยื่อของสุนัขจิ้งจอกมักจะเป็นไก่และปศุสัตว์ต่างๆ ที่มนุษย์เลี้ยง ทำให้สุนัขจิ้งจอกมักจะออกล่าปศุสัตว์ของมนุษย์อยู่เสมอทำให้ยิ่งเพิ่มเรื่องเล่าที่ไม่ดีต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก และมนุษย์เองก็ไม่ลังเลที่จะล่าหรือขับไล่สุนัขจิ้งจอกด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้เองทำให้สถานการณ์ของสุนัขจิ้งจอกทั่วโลกนั้นค่อยๆ ลดลง ทั้งจากการถูกล่าเอาขน การถูกคุกคามที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะสุนัขจิ้งจอกในแถบแอฟริกาใต้ อย่างสายพันธุ์ Crab-Eating Fox สุนัขจิ้งจอกสายพันธุ์เฉพาะในบราซิลที่กินปูในช่วงที่แม่น้ำเอ่อท่วมฝั่ง ที่ในตอนนี้กำลังสุ่มเสี่ยงจากการสูญพันธุ์จากความเชื่อผิดๆ
ดูเหมือนว่าความเจ้าเล่ห์ของพวกเขานั้นจะสู้กับความกลลวงของมนุษย์ไม่ได้เลย