เชื่อหรือไม่ว่าแมวเคยเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะในสงครามมาแล้ว
แต่ก่อนจะไปถึงสงคราม เราต้องเล่าถึงความคลั่งไคล้แมวของชาวอียิปต์กันก่อนว่า ในสมัยก่อนชาวอียิปต์โบราณนับถือแมวเปรียบดั่งตัวแทนเทพเจ้า เพราะว่ามีเทพองค์หนึ่งในปกรณัมของชาวอียิปต์มีชื่อว่าเทวี Bastet (บาสเต็ต) ซึ่งรูปลักษณ์ของเทพองค์นี้มีพระเศียรเป็นแมว เป็นตัวแทนของเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และความรัก เปรียบได้ดั่งมารดาแห่งสรรพชีวิต ดังนั้นเหล่าน้องแมวจึงถูกนับถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเทพองค์นี้ไปโดยปริยาย
จะบอกว่าชาวอียิปต์โบราณเป็นทาสแมวก็คงไม่ผิดนัก เพราะสมัยนั้นถือว่าแมวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกคุ้มครอง ใครที่จงใจทำร้ายหรือฆ่าแมวอาจจะโดนประหารชีวิตได้เลยทีเดียว แต่เรื่องที่เหล่าชาวอียิปต์โบราณต่างนับถือแมวเป็นอย่างมากพอไปเข้าหูของกษัตริย์ King Cambyses II แห่งเปอร์เซีย ที่อยากเปิดฉากรบเพื่อครองดินแดนในแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ที่อียิปต์โบราณอยู่มานานแล้วเข้า พระองค์ก็เกิดไอเดียแปลกๆ ที่จะใช้แมวเป็นตัวแปรสำคัญในการชนะสงครามนี้
แผนที่ว่าก็คือให้ทหารชาวเปอร์เซียทั้งหลายต่างพากันอุ้มแมวบ้าง เอาแมวติดไว้กับโล่บ้าง ชูแมวขึ้นเหนือหัวบ้าง พร้อมกับเคลื่อนทัพเข้าหากองทัพชาวอียิปต์โบราณ ฝ่ายชาวอียิปต์ที่บูชาแมวพอเห็นอีกฝ่ายใช้แมวเป็นแนวหน้าก็ไม่กล้ายิงธนูหรือชักดาบฟันอีกฝ่ายเพราะกลัวว่าจะทำให้แมวบาดเจ็บ รวมไปถึงกลัวว่าตัวเองจะถูกลงโทษตามกฏหมายตอนนั้นอีกด้วย ในบันทึกยังมีบอกไว้อีกด้วยว่า ทหารอียิปต์หลายคนพอเห็นอีกฝ่ายชูแมวเดินเข้ามาก็ตกใจตัวแข็ง บางคนถึงกับวิ่งหนีเลยก็มี
ผลลัพธ์จากการใช้แมวเป็นแนวหน้าบุกในสงครามครั้งนี้ก็เลยกลายเป็นว่าทางอียิปต์โบราณพ่ายแพ้ยับเยิน แล้วผลจากสงครามแห่ง Pelusium ครั้งนี้ก็ไม่ใช่เล่นๆ เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เปอร์เซียสามารถพิชิตอียิปตืได้ และสุดท้ายแล้วอียิปต์ก็ถูกผนวกกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเปอร์เซียในเวลาต่อมาด้วย
เรียกได้ว่าสงครามนี้ เหล่าทาสแมวต่างเสียท่าเพราะความรักแมวจริงๆ