รับน้องแมวไปซู้ดให้ชื่นใจซักแก้วไหมคะ
เห็นน้องแมวแบบปกติไปเยอะแล้ว คราวนี้เราจะมาชวนทุกท่านกระตุกไอเดียไปกับงานคอนเซ็ปต์อาร์ตจากทาง howl ที่มาในธีม “เมื่อเครื่องดื่มสุดฮิตกลายร่างเป็นน้องแมว” มาดูกันว่าน้องแมวแต่ละตัวจะแปลกแหวกแนวขนาดไหน และถ้ามีน้องแมวแบบนี้จริงๆ อยากจะลองเลี้ยงซักตัวไหม
แต่ที่แน่ๆ เลยก็คือต้องบอกว่าน้องแต่ละตัวนั้นช่างน่าดื่มซะจริงๆ
ยุคนี้ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักชานมไข่มุกอีกแล้ว
เครื่องดื่มสุดหวานมันตามด้วยไข่มุกนุ่มหนึบเคี้ยวมันส์แถมด้วยแคลลอรี่สุดร้อนแรงนี้ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไต้หวัน โดยชานมไข่มุกสูตรดั้งเดิมนั้น จะเป็นชาดำไต้หวันร้อนๆ นำมาใส่นมข้นหวานและน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้งให้ได้รสหวานมันกลมกล่อม แล้วเติมไข่มุกที่ทำจากแป้งมันสำปะหลังเพื่อเวลาดูดแล้วเคี้ยวหนึบหนับ
แต่หลังจากที่โด่งดังไปทั่วโลกแล้ว หลังจากนั้นก็มีสูตรชานมไข่มุกขึ้นมาอีกมากมาย แต่ที่น่าสนใจคือไม่ว่าจะเป็นชานมไข่มุกสูตรไหนเราก็นิยมดื่มแบบเย็นมากกว่าแบบร้อนเสมอ
ว่าแต่ว่าชานมไข่แมวนี่….ที่ใส่ลงไปเป็นไข่มุกหรือไข่แมวกันแน่นะ
หลายคนอยู่ว่าควรจัดอยู่ในหมวดหมู่ของขนมหรือว่าเครื่องดื่มดี แต่ที่เห็นตรงกันทั้งสองฝ่ายคืออร่อยมาก รสชาติหวานมันแต่ก็มาพร้อมกับแคลอรี่สูงทะยานฟ้า ชนิดว่าน้องๆ ฮันนี่โทสกันไปเลยทีเดียว ยิ่งเพิ่มวิปครีมฉ่ำๆ ไปอีก เรียกได้ว่ากินแก้วเดียวเท่ากับพลังงานข้าวมื้อหนึ่งได้เลย
ตอนนี้ในประเทศไทย ร้านแฟรนไชส์ที่มีเมนูสตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้กปั่นยืนพื้นถาวรเลยน่าจะมีแค่ที่ Amazon และ All Café เท่านั้น ส่วนของ Starbucks จะมาเป็นช่วงๆ ตามเทศกาล แต่ก็มีคนบอกว่าสามารถสั่งสูตรให้บาริสต้าทำให้ได้เหมือนกันนะ
ใครสายกาแฟดำบ้าง
กาแฟดำกินแล้วดีต่อสุขภาพมากๆ แต่ก็มาพร้อมกับความขมที่ใครหลายคนทำใจยากเหมือนกัน ดั้งเดิมแล้วกาแฟได้รับความนิยมสูงมากในอิตาลี ซึ่งนิยมดื่มกาแฟที่เรียกว่า Espresso ซึ่งเป็นกาแฟช็อตในแก้วเล็กๆ รสชาติเข้มข้นมากๆ
ทีนี้ก็มีคนที่มองว่ากาแฟเอสเพรสโซ่นี่รสชาติเข้มเกินไป เลยขอผสมน้ำเพื่อให้ดื่มคล่องคอขึ้น เลยกลายมาเป็นสูตรอเมริกาโน่หรือกาแฟดำที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นเอง ซึ่งตรงนี้มีเรื่องที่น่าสนใจคืออเมริกาโน่นั้นเป็นการเทกาแฟช็อตใส่แก้วก่อนแล้วค่อนใส่น้ำตาม แต่ถ้าเป็นสูตร Long Black จะกลับกันคือใส่น้ำก่อนแล้วค่อยใส่กาแฟช็อตตาม
แต่จะว่าไปแล้วน้องแมวอะเหมียวริกาโน่นี่….ก็น้องแมวดำธรรมดาๆ ไม่ใช่เรอะ
คาปูชิโน่หรือกาแฟดำใส่ฟองนมนั้นช่างเป็นรสชาติที่แสนนุ่มนวล ด้วยความขมของกาแฟตัดกับฟองนมหอมหวานนิดๆ ทำให้การจิบกาแฟยามเช้าเป็นเรื่องสุนทรีย์สุดๆ ไปเลย
คาปูชิโนมีต้นกำเนิดที่อิตาลี ประมาณช่วงปี 1980 โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าชื่อคาปูชิโน่นั้นแตกต่างจากชื่อกาแฟอื่นๆ ที่เน้นไปที่วิธีการทำหรือส่วนประกอบ เช่น Espresso มาจากคำว่าบีบอัด หรือ Latte (ลาเต้) ก็มาจากคำว่าผสมนม แต่ชื่อคาปูชิโน่นั้น มีที่มาจากการที่สีของกาแฟชนิดนี้นั้นมีสีที่คล้ายคลึงกับสีเสื้อคลุมของนักบวชคณะคาปูชิน ทำให้คนอิตาลีเลยเรียกกาแฟแบบนี้ว่า “คาปูชิโน” นั่นเอง
ชาเขียวกับญี่ปุ่นนับว่าเป็นของคู่กันเลยทีเดียว แม้ว่าจะเรียกว่าชาเขียวเหมือนๆ กัน แต่จริงๆ แล้วชาเขียวมีหลากหลายชนิดมากๆ และมีหลากหลายเกรดสำหรับการใช้ที่แตกต่างกันได้ด้วย เรียกได้ว่าศึกษาเรื่องชาเขียวญี่ปุ่นนี่ไปได้ลึกจนคุณต้องอึ้งเลยทีเดียว
แม้ว่าตอนนี้เราจะคิดถึงชื่อชาเขียวเป็นของประเทศญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วชาเขียวนั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยประมาณปี 1191 หรือประมาณพันปีที่แล้ว ได้มีพระนามว่า Myoan Eisai ได้นำชามาจากประเทศจีนในช่วงราชวงศ์ซ่ง ก่อนที่วัฒนธรรมดื่มชาและปลูกชาของญี่ปุ่นจะเริ่มรุ่งเรืองขึ้นมาหลังจากนั้น
นอกจากตัวชาเขียวเองแล้ว วัฒนธรรมชงชาของชาวญี่ปุ่นก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเช่นกัน โดยพิธีชงชานั้นเปรียบได้ดั่งการทำสมาธิ ถ่อมตัวต่อธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ และพินิจพิจารณาตนเอง ซึ่งพิธีชงชาเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับต้นกำเนิดของ “วาบิ ซาบิ” หลักปรัชญาว่าด้วยความสวยงามของสิ่งที่ไม่สมบูรณ์
ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าถ้ามีน้องแมวชาเขียวในแก้วจริงๆ การได้พิจารณาน้องแมวชาเขียวน่าจะเป็นเรื่องสนุกไม่น้อยเลยทีเดียว
ชาไทยสีส้มสด…ที่บอกเลยว่าคนทั่วโลกต่างตกหลุมรัก
ชาไทย หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษกันตรงๆ ว่า Thai Tea นั้น จริงๆ แล้วตัวชาเป็นชาที่มีชื่อเรีกว่า “ชาซีลอน” ซึ่งเป็นชาของศรีลังกา จากนั้นได้มีการนำมาชงและปรับสูตรเรื่อยมาจนกลายเป็นชาไทยที่มีเอกลักษณ์และถูกใจทุกคนถึงในตอนนี้
ว่ากันว่าคนไทยเริ่มประยุกต์กินชาใส่น้ำแข็งกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้ว เพราะว่าสมัยนั้นเริ่มมีการนำเข้าและผลิตน้ำแข็งขึ้นมาได้ ทำให้คนไทยที่อยู่ในเมืองร้อนๆ กระหายอยากดื่มอะไรเย็นๆ มากกว่าร้อนๆ
แต่กว่าจะมาเป็นชาไทยที่เราคุ้นเคยแล้วก็น่าจะสมัยปี พ.ศ. 2488 ซึ่งได้มีการประยุกต์นำชาไทยมาใส่กับนม นมข้น น้ำตาล และน้ำแข็ง ซึ่งในตอนนี้ชาไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมระดับโลก โดยติดใน 1 ใน 50 เครื่องดื่มรสชาติเยี่ยมของโลกของทางเว็บไซต์ CNNgo เลยทีเดียว
แต่พอเอาชาไทยมาทำเป็นน้องแมว ดูยังไงๆ มันก็…เอ่อ…..กลายเป็นน้องแมวส้มธรรมดาเฉยเลย
